วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2559

สูตรขัดผิวขาว เนียนนุ่ม แบบบ้านๆ ส่วนผสมหาซื้อได้ที่หน้าปากซอย

สูตรขัดผิวขาว เนียนนุ่ม แบบบ้านๆ ส่วนผสมหาซื้อได้ที่หน้าปากซอย

สูตรขัดผิวขาว เนียนนุ่ม แบบบ้านๆ ส่วนผสมหาซื้อได้ที่หน้าปากซอย

ลองเลย! เนียนนุ่ม แบบบ้านๆ ส่วนผสมหาซื้อได้ที่หน้าปากซอย

อากาศแบบนี้ ประกอบกิจให้ไม่อยากออกไปไหน ทรงไว้บ้านสิคะดีที่สุด...แต่กระนั้นอยู่บ้านจะทำอะไรส่งมอบเกิดประโยชน์กับตัวเอง สำหรับทิชชี่แล้ว การบ่มผิว และทำผิวให้มีความสว่างขึ้นด้วย "สูตรขัดผิว" แบบบ้านๆ ใช้ส่วนผสมง่ายๆ นั่นคือสิ่งที่ทิชชี่ทำเสมอค่ะ

เนื่องด้วยความที่ตั้งแต่ทิชชี่คลอดลูกออกลงมา ผิวพรรณหมองคล้ำดำเขียวไปมาก มิมีเวลาขัดๆ ถูๆ เหมือนตอนสาวๆ บอกเลยสำหรับมนุษย์แม่แล้ว อย่าว่าแต่เวลาจะขัดสีฉวีวรรณร่างเลย ฤกษ์จะอาบน้ำยังมีน้อยมาก เข้าห้องน้ำอาบน้ำที ก็ระแวงกลัวว่าลูกน้อยจักร้องอุแว้ๆ ที ร้องคราก็ต้องหอบร่างเปียกๆ วิ่งออกมาคอยดูลูกว่า เกิดอะไรขึ้น นางเป็นอะไร เฮ้อ

ออออ

กลับเข้าสู่เรื่องของเรากันต่อ เวลานี้อากาศเมืองไทยบ้านเรา แดดแรงจัดหนักมากๆ ร้อนแสบผิวประหนึ่งเหมือนตกอยู่ในนรกขนาดนี้ อย่าถามถึงผิว เพราะมีความพังขั้นสุดค่ะ

ขัดผิวขาว

สูตรขัดผิวขาว ส่วนผสมทั้งหมดที่ใช้ในสูตรขัดผิวขาว

อย่าปล่อยให้ผิวเสียหายไปมากกว่านี้ มาหาเวลาฟื้นฟูผิวให้สวยในเวลาอันเร่งรีบ ด้วยส่วนผสมหาซื้อได้ที่หน้าปากซอยไปพร้อมกับทิชชี่เถอะค่ะ

สำหรับคุณแม่ๆ ที่มี "น้ำนมสต๊อก" เหลือเฟือ นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อร่างของตัวเองได้เลยนะคะ พร้อมแล้วตามมาเลย!


ส่วนผสมสำหรับ "สูตรขัดผิวขาว" เพื่อผิวสวย มีดังนี้ค่ะ

สูตรขัดผิวขาว น้ำนมแม่น้ำนมแม่ เยี่ยมจริงๆๆ 

1 น้ำนมแม่ หรือ นมสด 
อยากมีผิวเนียนประหนึ่งก้นเด็ก ต้องห้ามขาดสิ่งนี้ล่วง จุดนี้ทิชชี่คว้าลองใช้น้ำนมที่คั้นสดๆ จากเต้าของตัวเองมาเป็นส่วนผสมนะ น้ำนม มีส่วนช่วยละลายเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกได้โดยง่าย สามารถทำความสะอาดผิวได้ลึกลงไปจนถึงชั้นผิวชั้นใน โปรตีนใน "น้ำนม" จะกระตุ้นเซลล์ผิวให้ผลิตคอลลาเจนเพิ่มขึ้น ผิวจึงประกอบด้วยความยืดหยุ่น นุ่มนวลขึ้นคว้าอย่างง่ายดายค่ะ ข้างนอกจาก "น้ำนมแม่" จะฟรี ยังดีแสนดีด้วยนะ

สำหรับสาวๆ ที่ไม่มี "น้ำนม" เป็นของตัวเอง ใช้ "นมสด" แทน ผิวก็นุ่มไม่แพ้กันนะคะ

 

สูตรขัดผิวขาว เกลือสปาเกลือขัดผิวสูตรน้ำนม หอมเกินห้ามใจ

2 เกลือขัดผิว 
จริงๆ มีให้เลือกใช้มากมาย หลายยี่ห้อ แต่ที่ทิชชี่เลือกใช้ตัวนี้เพราะ หาซื้อง่าย และราคาถูก ไม่เกิน 40 บาทค่ะ เป็นเกลือสปาขัดผิวสูตรน้ำนมที่กลิ่นหอมนำ หอมแรงมากๆ ช่วยขจัดสิ่งสกปรก คราบขี้ไคลตามซอกได้เริ่ด ด้วยส่วนผสมของเกลือและน้ำนม จะทำผิวเปล่งปลั่ง ขาวเนียนสดใส นุ่ม น่าสัมผัสกว่าเดิมนะ

 

สูตรขัดผิวขาว ทานาคาทานาคาแท้ของพม่า

 

สูตรขัดผิวขาว ทานาคา ขมิ้นทานาคา ผงขมิ้น

3 ทานาคา หรือ ขมิ้นผง
ตัวทานาคา หรือ แป้งที่ชาวพม่าใช้ทาหน้าขาวนั้น ทิชชี่ซื้อมาจากฝั่งชายแดน จ.กาญจนบุรี จ๊ะ ราคาถูกเช่นกัน ไม่เกิน 20 บาท (ที่เมืองกรุงฯ หาซื้อที่ไหนลองเซิร์ทข้อมูลที่อากูเกิ้ลเอานะคะ) สรรพคุณของสมุนไพรธรรมชาติ เหมือน ทานาคา ช่วยปรับผิวหมองคล้ำให้ขาวผ่องเป็นยองใย ช่วยลดผดผื่น คันจากการแพ้ จุดด่างดำ จางลง เช่นเห็นได้ชัดขา

หาก "ทานาคา" หาซื้อยากเกินเจียร จัด "ขมิ้นผง" ของไทยเราแทนได้รับ ก็ดีไม่แพ้กันนะ (ทิชชี่ซื้อจากแม่ค้าหาบของขาย ที่ตีนสะพานลอยแถวบ้านค่ะ) ราคาถุงละ ไม่เกิน 20 บาท ขมิ้นมีคุณสมบัติช่วยในที่การบำรุงผิว เอาเป็นว่า ใครอยาก "ผิวขาวเหลืองทองเหมือนขมิ้น" ปรามขาดตัวนี้เด็ดขาด

 

สูตรขัดผิวขาว น้ำมันมะพร้าวน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์


4 น้ำมันมะพร้าว
คือดีจริงๆ ตั้งแต่หัวจรดเท้าใช้ได้หมด ทิชชี่ใช้มาตั้งแต่ก่อนท้อง จนตอนนี้ก็ยังใช้อยู่ เพราะติดใจความดีงามค่ะ คุ้มค่าคุ้มราคานะ น้ำมันมะพร้าวมีแอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยต่อต้านการเติมออกซิเจนที่ทำให้เกิดอนุมูลอิสระ ช่วยกำจัดชั้นเซลล์ผิวหนังที่ถึงอายุขัย ให้หลุดออกไปจากผิวหนัง และกระตุ้นให้เกิดเซลล์ใหม่ ทำให้ผิวพรรณดูอ่อนวัย ไร้รอยเหี่ยวย่น เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนังเป็นอย่างดีด้วยนะ

 

นำส่วนผสมทั้งหมดที่เตรียมไว้มายำใส่กัน ในสัดส่วนที่กะตามความเหมาะสมเลยจ้า แต่อย่าให้เหลวเกินไปนะ

สูตรขัดผิวขาวส่วนผสมทั้งหมด หน้าตา น่ากินไหมคะ

 

 

สูตรขัดผิวขาว

นำส่วนผสมทั้งหมดมาผสม คนให้เข้ากัน

 

ขั้นตอนการขัดผิวขาวปิ๊ง

สูตรขัดผิวขาว

- ทำตัวให้เปียก ด้วยการล้างน้ำสะอาด แต่สำหรับทิชชี่ อาบด้วยน้ำนมตัวเองเลยจ้า ได้อรรถรสดีนะ

สูตรขัดผิวขาว

ซูมเนื้อทรายแบบใกล้ๆ มีความละเอียดมากๆ 

 

- เมื่อเนื้อตัวชุ่มฉ่ำได้สถานที่ ละเลงเกลือที่ผสมไว้ลงบนร่าง (เมื่อเกลือน้ำนม มาเจอกับน้ำนมสดๆ ข้าวของทิชชี่ กลิ่นหอมได้ใจ น่ากินมากๆ) ค่อยๆ ทำทีละจุด ขัดๆ วนๆ เป็นวงกลม ขัดให้ทั่วร่าง เน้นหนักๆ ยอมผิวด้านๆ หนาๆ อย่าง ข้อศอก ขาหนีบ ตาตุ่ม ขัดได้ แต่อย่าแรง ไม่งั้นแสบระคายเคือง ไม่รู้ด้วยนะ ขัดเสร็จหากมีเวลาอีกสักนิด(ยามลูกหลับ) ทิ้งร่างถิ่นที่เต็มไปด้วยเกลือเก็บสัก 15 นาที 

 

สูตรขัดผิวขาว

 

- ล้างออกให้สะอาด หลังจากนั้นอาบน้ำตามปกติ คุณจะสัมผัสได้เลยค่ะ ต่อว่าผิวมีความขาวอมเหลืองรุ่งมานิสสส (อันนี้มโนเองว่าขาว อิอิ) แต่ความเนียนนุ่มของผิวนั้นเห็นได้อย่างชัดเจนค่ะ จากผิวแข็งหยาบกระด่าง นุ่มนิ่มดั่งตูดลูก เด้งขึ้นมาทันตาเห็น แถมมาด้วยความหอมน่ากินที่เต็มไปด้วยกลิ่นของเกลือสูตรน้ำนม พร้อมด้วย น้ำนมแม่สดๆ  

สูตรขัดผิวขาวในส่วนของขา ดำจนแยกไม่ออก แต่มีความเนียนนะ ขอบอก ^^

 

- อาบน้ำเสร็จ ก่อนเช็ดตัว ทาน้ำมันมะพร้าวให้ทั่วร่าง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่น ได้ความผ่อนคลายขึ้นค่ะ

 สูตรขัดผิวขาว

*** สำหรับส่วนผสมที่ใช้มิหมด นำมาใส่กระปุก ปิดฝาให้แน่น แช่ตู้เย็น เก็บไว้ใช้คืนต่อครั้งต่อไปได้อีก

*** หากหาส่วนผสมไม่ครบ และเพื่อความสะดวก อาจใช้แค่ "น้ำนมแม่" และ "เกลือขัดผิว" ก็ผิวเด้งเปล่าแพ้กันนะคะ

สูตรขัดผิวขาวแยกออกไหมคะ ว่าข้างไหนผ่านการขัดถูๆ มาแล้ว อิอิ 

 

การขัดสีฉวีวรรณผิว ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นมิแพ้การดูแลผิวหน้าเลยนะ ร่างกายของเราสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นตลอดวัน เพื่อทดแทนเซลล์ผิวเก่าที่หมดอายุและหลุดลอกเองตามธรรมชาติ การขัดผิวจึงเป็นทางเลือกหนึ่งณการกำจัดเซลล์ผิวเก่าแดนบดบังความสดใสของผิว อีกทั้งยังเป็นการช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้ผิวสดใสขึ้นเช่นกัน

การขัดผิวที่ดี น่าจะทำอย่านุ่มนวล มิตะบี้ตะบันขัดให้เสร็จๆ ไป พร้อมทั้งไม่ควรขัดบ่อยเกิน เพราะจะทำให้ผิวอ่อนไหว ไม่ทนแดด ทำให้ผิวแห้งกร้านได้ง่าย

ทางที่ดี ควรขัดผิวเดือนละ 1-2 ครั้ง ทำเป็นประจำสม่ำเสมอ อย่าได้ขาด ไม่นานผิวของสาวๆ ขาวเนียน นุ่ม น่าสัมผัส จะแต่งตัวแบบไหน ก็มั่นใจได้แล้วค่ะ

สูตรง่ายๆ แบบนี้ ไม่ดีจริง ไม่นำมาบอกต่อนะ เอาเป็นว่า เวลานี้ทิชชี่ขอตัวอยู่ ขัดๆ ถูๆ ผิวที่ดำๆ เขียวๆ ก่อนนะ บะบายยยยย

ดูลายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://women.sanook.com/48325/

 

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เคล็ดลับความงาม

วิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธี ทำแบบนี้สิ หน้าใสไร้สิว ไร้ความหมองคล้ำดั่งใจ

วิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธี ทำแบบนี้สิ หน้าใสไร้สิว ไร้ความหมองคล้ำดั่งใจ

วิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธี ทำภาพร่างนี้สิ หน้าใสไร้สิว ไร้ความหมองคล้ำดั่งใจ

การขัดผิวเป็นการทำความสะอาดรูขุมขนอย่างล้ำลึก และยังช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพแล้วให้หลุดออก แต่การขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธีเท่ากันนั้นที่ทำแล้วหาได้ผล ซึ่งวิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกต้องเหมาะสมจะต้องทำอย่างไรบ้าง เพราะหลายครั้งสาวๆ ทำแล้วกลับมีผิวหน้าหมองคล้ำกลับมาแทนที่ วันนี้เราเลยจะมาแนะนำคติในการขัดผิวอย่างถูกวิธีให้ได้ทราบดังนี้ค่ะ

ตอนสดสิวควรขัดหน้าดีไหม?

ในช่วงเนื้อที่เป็นสิว สาวๆ เปล่าควรขัดผิวหน้าอย่างเด็ดขาด เพราะอาจเป็นการเคลื่อนที่รบกวนสิวให้ยิ่งอักเสบลุกลามหนักรุ่งได้ หรือหากต้องงานขัดผิวหน้าจริงๆ แนะนำเอื้ออำนวยพยายามขัดในส่วนผิวทั่วไปปกติ หลีกเลี่ยงการลูบไล้จุดที่มีสิวขึ้นเด็ดขาด กับควรล้างหน้าให้สะอาดปราศจากฟองตกค้าง จักได้ไม่เป็นอาหารสิวต่อไป

วิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธี ทำแบบนี้สิ หน้าใสไร้<b><i>สิว</i></b> ไร้ความหมองคล้ำดั่งใจ
วิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธี ทำแบบนี้สิ หน้าใสไร้สิว ไร้ความหมองคล้ำดั่งใจ

วางแผนวันขัดผิวไว้บ้างก็ดี

การขัดผิวหน้า โปร่งบางครั้งสาวๆ ก็แตะต้องรู้จักวางแผนช่วงเวลาแห่งการขัดผิวเหมือนกันนะคะ จริงอยู่ที่เราควรขัดผิวในตอนกลางคืนเท่านั้นแล้วก็จะเหมาะสม แต่อย่างไรก็ดี สำหรับสาวๆ ที่ขัดผิวหน้าแต่ก่อนนอน แต่หากตอนเช้ามีทริปหรือมีเหตุจำเป็นจะต้องไปทำกิจกรรมกลางแดด หรือไปทะเล เรียกง่ายๆ ว่าหากผิวหน้าจะต้องเผชิญกับแสงแดดคือเวลานาน ในช่วงนี้ควรเลื่อนการขัดผิวหน้าไปก่อนเป็นดีที่สุด เพราะว่าช่วงที่เราขัดผิวใหม่ๆ ผิวหน้าจะยิ่งบอบบางและไวต่อแดดอย่างมาก เสี่ยงที่อยู่จะทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำและมีปัญหาระคายเคืองกลับมาคว้านั่นเอง

ขัดผิวหน้าอย่างเบามือทุกครั้ง

ผิวหน้าของคนเรามีความบอบบางมากกว่าผิวส่วนอื่นๆ ดังนั้น ขณะขัดผิว สาวๆ จึงควรลูบไล้ผิวโดยขัดแบบเป็นวงกลมอย่างเบามือที่สุด โดยทำเช่นนี้จนทั่วทั้งใบหน้า เน้นหน้าผาก จมูก แก้มสองข้างและคางเป็นพิเศษ และหากส่วนใดที่มีสิวเสี้ยนก็อาจจะพยายามขัดผิวบริเวณนั้นย้ำบ่อยๆ ซึ่งเวลาในการขัดก็ควรอยู่ที่ประมาณ 5-10 นาทีก็ถือว่าเพียงพอแล้วค่ะ

วิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธี ทำแบบนี้สิ หน้าใสไร้สิว ไร้ความหมองคล้ำดั่งใจ
วิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธี ทำแบบนี้สิ หน้าใสไร้สิว ไร้ความหมองคล้ำดั่งใจ

ควรทาครีมกันแดดหลังขัดผิวอยู่เสมอ

แม้จะขัดผิวในตอนกลางคืนก็ตาม แต่ในทุกๆ เช้าหลังจากทาครีมบำรุงผิวหน้าเสร็จแล้ว สาวๆ ก็ต้องทาครีมกันแดดปกป้องผิวจากรังสี UV อยู่เสมอ โดยควรเลือกชนิดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่ผิวหน้าบอบบางและไวต่อแดดกว่าช่วงเวลาอื่นๆ ไม่เช่นนั้น แสงแดดจะทำลายผิวหน้าให้หมองคล้ำได้ และหากจะให้ดี พยายามเดินหลบเลี่ยงแสงแดดไว้ด้วยจะดีที่สุด หรืออาจจะกางร่มหรือสวมหมวกปีกกว้างกันแดดอีกทีก็ได้

บำรุงผิวทุกครั้งหลังขัด

หลังพลัดพรากขัดผิวหน้าเสร็จแล้ว สาวๆ ควรทาครีมบำรุงผิวหน้าที่กอบด้วยส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ทันที เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวหน้ายิ่งสุขภาพดี เนียนนุ่มสดใสเลิศขึ้น

รู้กันแบบนี้แล้ว จากนี้ไปก็หันมาขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธีตามคำแนะนำจากเรากันนะคะ เพื่อผิวหน้าจะได้ขาวกระจ่างใสไร้สิว ไม่มีริ้วรอยและความหมองคล้ำมาเยือนง่ายอีกต่อไป

ขอบคุณข้อมุลจาก http://women.sanook.com/blog/80203

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : รวมเคล็ดลับเด็ดเรื่องสิว

ชาวบ้านศรัทธา ครูบาออ เกจิดังอายุ 101 ปี นั่งสมาธิละสังขารอย่างสงบ

ชาวบ้านศรัทธา ครูบาออ เกจิดังอายุ 101 ปี นั่งสมาธิละสังขารอย่างสงบ

ชาวบ้านศรัทธา ครูบาออ เกจิดังอายุ 101 ปี นั่งสมาธิละสังขารอย่างสงบ

เช้ามืดวันนี้ ( 24 ต.ค.) หลวงปู่ครูบาออ ปัณฑิต๊ะ เกจิชื่อดังของภาคเหนือ เจ้าสำนักสงฆ์พระธาตุดอยจอมแวะ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ได้นั่งสมาธิละสังขารด้วยอาการสงบ สิริอายุ 101 ปี

โดยคณะกรรมการวัดเล่าว่าหลังจากที่หลวงปู่ตื่นมาทำวัตรเช้าช่วงเช้ามืดด้วยการ นั่งสมาธิ ปรากฏว่าหลวงปู่ได้ละสังขารในท่านั่งสมาธิในเวลา 04.05 น. ยังไม่ตายที่อัศจรรย์ของบรรดาคณะกรรมการวัดและลูกศิษย์ หลังจากนั้นลูกศิษย์ได้มานำร่างของหลวงปู่ไปยังโรงพยาบาลฝาง เพื่อหาสาเหตุของการมรณภาพ ก่อนจะนำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดเด่นชัย อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่

สำหรับหลวงปู่ครูบาออ ปัณฑิต๊ะ ถือคือครูบาเชื้อสายไทยใหญ่ที่ร่ำลือกันว่ามากด้วยวิชาขมังเวทย์ เป็นที่เคารพศรัทธาจากประชาชนชาวไทยใหญ่ในรัฐฉานเป็นอย่างมาก โดยเมื่ออายุ 20 ปี ขณะที่ครูบาออยังเป็นทหารไทยใหญ่ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ได้นำทหารเข้ารบชนะข้าศึก หลายครั้งโดยไม่เสียกำลังแม้แต่นายเดียว ทหารไทยใหญ่ที่เข้ารบกับพม่าทั้งกองร้อย ไม่เคยพ่ายแพ้ เพราะครูบาออ หรือ นายออ ในขณะนั้น ได้ทำน้ำมนต์และสักกระหม่อมให้เพื่อนทหารสู้กับศัตรู ปรากฏว่าปืนทหารพม่ายิงไม่ออกบ้าง ออกลูกแต่ไม่ถูกบ้าง ลูกระเบิดตกใกล้ๆ ไม่ระเบิดบ้าง แม้ตอนนี้เจ้ายอดศึก ผู้นำไทยใหญ่ ก็เคารพนับถือท่านอย่างที่สุด


หลวงปู่ครูบาออ เกิดวันอังคาร เดือนสิบสองไทยใหญ่ ตรงพร้อมกับเดือนพฤศจิกายนของไทย เมื่อปี พ.ศ. 2461 ถิ่นหมู่บ้านน้ำหน่อ ตำบลปางซาง จังหวัดลายข่า ในเขตรัฐฉาน ประเทศเมียนมาร์

บิดาเป็นกำนันชื่อนายจั่นตา มารดาชื่อนางเห็งแปร มีพี่น้องร่วมกันทั้งหมด 10 คน หลวงปู่ครูบาออ เป็นคนที่ 10 ของครอบครัว ปัจจุบันพี่น้องได้เสียชีวิตไปหมดแล้ว คงเหลือแต่หลวงปู่ครูบาออท่านเดียว ท่านยังมีหลานๆ อยู่ข้างในตำบลเมืองนะหลายคนในปัจจุบัน ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรตั้งแต่อายุ 7 ขวบจนถึงอายุได้ 15 ปี เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2

ท่านได้ลาสิกขาไปเป็นทหารร่วมรบกับกองกำลังทหารไทยใหญ่ในฐานะผู้นำทัพ (เทียบเท่านายพลของไทย) เมื่อปลดจากทหารแล้วท่านได้กลับมาอุปสมบทอีกคราโดยมีเจ้าปิ่นยา สังฆราชของไทยใหญ่บวชให้เมื่อราวปีพุทธศักราช 2497

ครูบาออเคร่งครัดในวินัยการปฏิบัติของสงฆ์เป็นอย่างยิ่ง ใช้ชีวิตสันโดษสมถะ เรียบง่ายและมีความมานะอดทนสูงที่บนสำนักสงฆ์พระธาตุดอยจอมแวะไม่มีน้ำ ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีชาวบ้านสักหลังคาเรือน แต่ท่านอยู่ได้ ถือได้ว่าท่านเป็นพระเกจิสุปะฏิปันโณที่น่าศรัทธาเลื่อมใส สำหรับการมรณภาพของหลวงปู่ออ ด้วยอายุ 101 ปี ชาวบ้านพากันไปหาซื้อเลขเด็ดกันเกลี้ยงแผง

ข้อมูลจาก http://news.sanook.com/2089346/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าวด่วน

มองชีวิตให้มีแต่ความเอ็นจอย “รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น”

มองชีวิตให้มีแต่ความเอ็นจอย “รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น”

มองชีวิตให้มีแต่ความเอ็นจอย “รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น”

แขอยากให้เลิกฝังความคิดเรื่องความดูดีต้องขาว ต้องสูง ต้องผอม ตัวเล็ก เราควรภูมิใจในแบบที่เราเป็นเราโดย รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น

ฟังแค่ชื่อทีไร พลอยนึกว่าเธอคือหนึ่งในผู้เข้าประกวดนางงามทุกที แต่แท้ที่จริง “รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น” เป็นชื่อในวงการบันเทิงของพิธีกร ดาราผู้ชายนะคะผิวสีที่แม้จะเข้ามาชิมลางงานในแวดวงมายาได้ไม่นาน แต่กลับมีบุคลิก และผลงานเตะตา

เส้นทางก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงของเธอมาจากความฝันที่ตั้งไว้ และพุ่งเข้าชน (อย่างแรง) เพราะอยู่ดีๆ เธอก็พาร่างสูงใหญ่ ผิวสีสไตล์ลูกครึ่งไทย-อเมริกันเดินตรงไปที่ตึกแกรมมี่ เพื่อบอกว่า “พี่คะ หนูอยากเป็นดารา” อะไรผลักดันให้เธอช่างกล้าทั้งๆ ที่รู้ว่าบ้านเราต้องสวย ขาว หล่อ หุ่นดีเท่านั้นถึงจะเข้าเส้นชัย Sanook! Women อยากให้คุณรู้จักเธอไปพร้อมๆ กัน แล้วจะรู้ว่าชีวิตของรัศมีแขมีสีสันพอๆ กับรอยยิ้มของเธอ

จะ “แจ่ม” “เจมส์” หรือ “รัศมีแข” ก็โดนล้อว่า “ขวานฟ้าหน้าดำ”
ในระหว่างให้สัมภาษณ์รัศมีแขมักเรียกแทนตัวเองว่า “แข” ทั้งๆ ที่ชื่อจริงของเธอคือ “เจมส์ ฟอเกอร์ลุนด์” มีเชื้อสายลูกครึ่งไทย-อเมริกัน เกิดที่เมืองไทยและอยู่ที่นี่จนอายุ 10 ขวบก่อนจะตามไปอยู่กับคุณแม่ที่สวีเดนหลังคุณแม่แต่งงานใหม่

แม้จะเกิดที่ภูเก็ต แต่ชีวิตก็ย้ายไปอยู่จังหวัดนั้นจังหวัดนี้บ่อยครั้ง และเป็นเรื่องธรรมดาที่เธอยอมรับว่าลูกครึ่ง ผิวดำ และเพศทางใจไม่ตรงกับเพศทางกายแบบเธอ จะไปอยู่ที่ไหนก็ต้องโดนล้อ โดนแกล้ง

“แขมีพี่สาวคนละพ่อเป็นลูกครึ่งสวิสเซอร์แลนด์ ขาว สวย แต่แขเป็นลูกครึ่งอัฟโฟรอเมริกัน จะโดนเปรียบเทียบตลอด เมื่อก่อนก็งงว่าทำไมต้องมาว่าเราเป็นมูฮัมหมัด อาลี ให้ถอดเสื้อแล้วชกมวย เราอายนมเรามาก มีแต่คนบอกว่าเราเหมือน ไปไหนก็มีแต่คนเรียกขวานฟ้าหน้าดำ ข้าวนอกนา เราก็งงว่าคืออะไร แต่ไม่โกรธ”

ใช้ “จุดอ่อน” ผลักดันให้เกิด “จุดแข็ง”
เมื่อย้ายไปอยู่สวีเดนกับคุณแม่ การอยู่ร่วมกับชาวต่างชาติ ยิ่งทำให้รู้สึกกดดันเนื่องจากเด็กสวีเดนแท้ๆ ไม่ยอมรับชาวต่างชาติ และเธอยังมีปัญหาเรื่องภาษา ปีแรกของการเรียนเธอจึงดร็อปทุกวิชาเพื่อมุ่งมั่นเรียนภาษาสวีเดนให้แข็งแรง

“ภาษาเราสู้เขาไม่ได้ แทนที่เราจะเสียใจ เราก็โอเคและสู้ไปกับปัญหา แม้จะโดนล้อว่าเป็นตุ๊ด แต่ไม่โกรธ เพราะเรารู้ตัวดีอยู่แล้ว แต่พอภาษาเราไม่เก่ง เราเลยหันไปเอาดีเรื่องงานฝีมือ วาดรูป พละ แค่นี้ก็ทำให้เรากลายเป็นเด็กดังในโรงเรียน พอดังก็เริ่มได้รับการยอมรับ การล้อก็เริ่มหายไป ตอนนั้นคิดตลอดเวลาว่าเราต้องเป็นเด็กดี ต้องเป็นที่รักของอาจารย์ มันก็หนีไม่พ้นที่จะมีคนเกลียด”

เมื่อเข้าไฮสคูลเธอโดนล้อหนักขึ้นไปเรื่อยๆ แม้จะรับจ้างเป็นพนักงานร้านขายของใช้ชำหาเงินใช้เอง จนถึงเก็บเงินซื้อกระเป๋าใบละ 7 หมื่นใช้ได้ ก็ไม่วายโดนเพื่อนแกล้งสารพัด รุนแรงลุขนาดเผากระเป๋าในล็อกเกอร์ โชคยังดีที่วันนั้นเธอไม่ได้ใช้กระเป๋าใบแพง อย่างเดียวมันก็สะท้อนว่าเธอไม่ได้รับงานยอมรับสารภาพ

“เคยมีพวกแขกท้าเราไปตีหลังโรงเรียน เราเป็นคนไม่คิดอะไร เลยบอกได้ แต่บอกฉันไม่ไปไหน ถ้าจะตีก็ตีกันตรงนี้ ไอ้นั่นก็ไม่กล้า กลัวคนเห็น”

ตัวตนที่แท้จริงของฉันอยู่หนใด ?
เพราะเพศที่ไม่ได้คัดเลือกตั้งแต่แรกทำสละเธอมุ่งมั่นหาจุดยืนของตัวเอง หลังเรียนจบการโรงแรมเธอสมัครงานบริษัทเมคอัพสโตร์ และมีโอกาสบินมาทำงานที่ทางเมืองไทย อย่างเดียวกลับพบว่าไม่ใช่สิ่งที่อยากทำ จนมีโอกาสพบกับคุณโอ ศิระ ที่ช่วยเตือนสติให้ค้นหาตัวเอง เมื่อกลับสวีเดนก็ไปสมัครเป็นตัวแทนขายตั๋วเครื่องบินท้ายที่สุดก็พบว่ายังไม่ใช่อาศัยดี

ในช่วงเวลาที่ยังสับสน วอลเลย์บอลคือกีฬาที่เธอเลือกมีชีวิตเป้าหมายสั้นๆ รอการค้นพบตัวตนที่ทางแท้จริง
“ตอนนั้นอายุ 26 ทำงานเสิร์ฟอาหารที่ร้านอาหารไทยอาทิตย์ละ 1 วัน แขปรากฏกับแฟน ไม่ได้คิดอะไรมาก ขอแค่ได้เล่นวอลเลย์บอลอาทิตย์ละ 1 วันกับแก๊งค์ตุ๊ด แก๊งค์เกย์ไทย เล่นเป็นบ้าเป็นบอ ไม่ทำอะไรเลย ตื่นเช้าส่งหลาน กลับมากินข้าว เดินไปสนามวอลเลย์บอล พอเล่นเสร็จแฟนก็มารับ วันอาทิตย์ตื่นเช้าไปทำงาน 9 โมงถึง 5 ทุ่ม มีชีวิตแบบนี้ตลอด”

ชีวิตเคว้งคว้างไร้จุดหมาย หมดทางไปคิดว่าจะขอเล่นวอลเลย์บอลพร้อมด้วยใช้ชีวิตแบบตรงนี้ไปจนถึงอายุ 30 แล้วค่อยหางานทำเป็นเรื่องเป็นราว

มีวันนี้เพราะพี่ (แท่ง) ให้
ความรักชอบการแสดง ในสวีเดนเธอจึงเป็นที่รู้จักและมักรับจ้างเป็นพิธีกรงานต่างๆ บ่อยครั้ง กระทั่งมีโอกาสเป็นไกด์นำเที่ยวให้แท่ง ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง และแท่งคือผู้ที่เห็นคาแรคเตอร์ของเธอก่อนเอ่ยปากชวนให้กลับมาอยู่เมืองไทย คำชักชวนนั้นกลายเป็นเชื้อไฟแห่งความฝันและความหวัง แม้ตอนนั้นสมัครแอร์โฮสเตสไว้ เธอกลับตัดสินใจหนีมาเมืองไทยเพื่อตามฝันการเป็น “ดารา”

“แขไปเลยค่ะ ประกวด KPN รอบสุดท้าย อีฉันแค่คิดว่าเราต้องได้ออกทีวี เราก็คือตัวของตัวเองแบบนี้ มือสั่นด้วย สุดท้ายเข้ารอบ 30 คนสุดท้าย แต่ก็ได้แค่นั้น ข้อความย่อยนั้นเราคิดว่าเราจะต้องทำอะไรสักอย่างให้พี่แท่งภูมิใจ”

เคลื่อนนั้นเธอตัดสินใจเขียนเรซูเม่เดินเข้าเดินทางที่ตึกแกรมมี่บอกเจตนารมณ์ต่อว่าอยากเป็นดารา เจ้าหน้าที่แนะนำให้ขึ้นไปติดต่อส่วนที่เกี่ยวข้อง เป็นความบังเอิญที่เธอเจอกับพี่ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ซึ่งเห็นแววและมอบงานพิธีกรสน.ฮอลลีวูด รายการแรก ก่อนจะตามด้วยละคร Club Friday To be Continued ตอนความลับของมิ้นต์กับมิว พร้อมกับผลงานอื่นๆ

“ตอนนั้นแนะนำตัวกับพี่ฉอดว่าเราชอบเต้นกินรำกิน พอได้ทำงานก็ภูมิใจ พอไปเล่นมิ้นต์กับมิว เราใหม่มาก เราเล่นใหญ่เต็มที่ คนก็เริ่มจำได้ แต่พอมาเล่นละครเรื่อง “เพื่อนรักเพื่อนร้าย” ในบทเอ็นจอย คนก็จำได้ พอได้งานเร่งบอกพี่แท่งล่วงเลย”

“พี่แท่งทำได้แล้ว พี่แท่งบอกเก่งมาก ตอนนั้นมันจะร้องไห้เลยนะ ออกจากนั้นพี่แท่งก็สอนเรื่องการทำงานในวงการ เน้นมากเรื่องเวลา ห้ามดื่มเหล้า แตะต้องเคารพผู้ใหญ่”

เด็กนอก…บนเวทีที่ไม่ประกอบด้วยพี่เลี้ยง
จากเด็กนอกลงมาอยู่เมืองไทยแบบไร้สัตว์สองเท้าแนะนำ คราวแรกเธอจึงต้องปรับตัวให้เข้ากับผู้ร่วมงาน วิธีการทำงานแบบคนไทย วัฒนธรรมความเป็นคนไทย บางครั้งแม้จะเตรียมใจไว้แล้ว แต่กับบางเรื่องก็ไม่คิดว่างานเบื้องหน้าที่สวยหรูกลับมีเบื้องส่วนหลังยากลำบาก

“ทำใจไว้ส่วนหนึ่งต่อว่าเรามาทำงาน พี่ๆ ทุกคนเป็นดาราดังกันหมด เราต้องอยู่ให้ได้ หมวดเราไม่รู้มาก่อนว่าเวลาถ่ายละครต้องไปยืนกลางแดดร้อนๆ บางทีถ่ายดึก ไม่ได้นอน นอนกลางดินกินกลางทราย เมื่อก่อนเราไม่เคยรู้แต่ตอนนี้เรารู้แล้ว และมีความสุขมากกับการอยู่เบื้องหลัง ตอนนี้อยากเล่นได้หลายๆ แบบแผนผัง เล่นเป็นผู้ชายก็อยาก”

“งานในวงการบันเทิงสอนอุปการะเรามีความรับผิดชอบ และมันเป็นงานแห่งหนทำให้คนมีความสุข เพราะเราเคยอยู่ในจุดที่คนล้อเรา เราเกลียดเมืองไทย ไม่อยากมา แต่วันหนึ่งกลับพลิกจุดนั้น เรากลับเป็นคนที่ทำให้คนไทยมีความสุข ทำให้เรายิ่งมีความสุข งานในวงการบันเทิงเป็นงานเล็กๆ ที่ทำให้หลายคนมีความสุข เรารู้สึกว่าเราได้ประพฤติอะไรให้คนอื่นบ้าง รู้สึกตัวเองมีค่า”

สำคัญที่สุดคือรู้จักตัวเอง
แม้พื้นที่ผ่านมาปมเรื่องสีผิว รูปร่าง หน้าตา ความผิดเพศที่คนอื่นมอบให้จักฝังลึกเป็นปมในใจ แต่เมื่อเธอเลือกที่จะทำความรู้จักตัวเอง ยอมรับและแก้ปัญหานั้น ในวันนี้สิ่งที่มีค่าที่สุดคือการค้นพบตัวเองและภูมิใจอย่างถิ่นที่ตัวเองยังมีชีวิตอยู่

“แขอยากตัวเล็ก แขทำไม่ได้เพราะแขสูง แขไม่สามารถเหลากระดูกได้ แขอยากขาวแต่ขาวไม่ได้ กระทำการได้แต่จะเป็นมะเร็ง เมื่อเป็นแบบนั้นเราจะอยู่อย่างไร เราก็อยู่แบบตัวใหญ่ๆ อยู่แบบตัวดำ อยู่ให้รู้ว่าฉันสูง ขายาว อย่าส่งเสียฉันมีซิกแพคนะ หุ่นฉันจะสวยมาก มันคือการค้นหาตัวเอง เราไม่ได้หาจุดด้อยของตัวเอง เราหาจุดเด่นของตัวเองให้เจอ แขทำศัลยกรรมได้แต่ไม่ทำ เพราะแขมีความสุขกับตรงนี้มาก เมื่อเรายอมรับตัวเองปุ๊บ ใจข้าก็จะเปิด อีกอย่างแขอยากจ่ายเลิกฝังความคิดเรื่องความดูดีต้องขาว ต้องสูง ต้องผอม ตัวเล็ก เราควรภูมิใจในแบบที่เราเป็นเรา และการล้อคนอื่นแห่งเรื่องเหล่านี้มันทำให้คนๆ นั้นมีปม ซึ่งไม่ใช่เรื่องดี”

การมองชีวิตให้เห็นด้านสุขไม่ง่ายถ้ากูไม่เคยเห็นด้านตรงกันข้ามของมันมาก่อน รัศมีแขอยู่พร้อมทั้งปมเหยียดมาตั้งแต่เด็ก บางคนเลือกจมปลักติดทุกข์อยู่กับปมนั้น แต่เธอเลือกติดสุข ติดสนุก และเอ็นจอยกับเลี่ยนมากกว่า จึงไม่รู้สึกแปลกใจเมื่อเห็นเธอแล้วเราจะรู้สึกได้รับความสุข ความสนุกส่งผ่านหน้าจอ

ข้อมูลจาก http://women.sanook.com/48835/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าวด่วน

มองชีวิตให้มีแต่ความเอ็นจอย “รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น”

มองชีวิตให้มีแต่ความเอ็นจอย “รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น”

มองชีวิตให้มีแต่ความเอ็นจอย “รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น”

แขอยากให้เลิกฝังความคิดเรื่องความดูดีต้องขาว ต้องสูง ต้องผอม ตัวเล็ก เราควรภูมิใจในแบบที่เราเป็นเราโดย รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น

ฟังแค่ชื่อทีไร พลอยนึกว่าเธอคือหนึ่งในผู้เข้าประกวดนางงามทุกที แต่แท้ที่จริง “รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น” เป็นชื่อในวงการบันเทิงของพิธีกร ดาราผู้ชายนะคะผิวสีที่แม้จะเข้ามาชิมลางงานในแวดวงมายาได้ไม่นาน แต่กลับมีบุคลิก และผลงานเตะตา

เส้นทางก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงของเธอมาจากความฝันที่ตั้งไว้ และพุ่งเข้าชน (อย่างแรง) เพราะอยู่ดีๆ เธอก็พาร่างสูงใหญ่ ผิวสีสไตล์ลูกครึ่งไทย-อเมริกันเดินตรงไปที่ตึกแกรมมี่ เพื่อบอกว่า “พี่คะ หนูอยากเป็นดารา” อะไรผลักดันให้เธอช่างกล้าทั้งๆ ที่รู้ว่าบ้านเราต้องสวย ขาว หล่อ หุ่นดีเท่านั้นถึงจะเข้าเส้นชัย Sanook! Women อยากให้คุณรู้จักเธอไปพร้อมๆ กัน แล้วจะรู้ว่าชีวิตของรัศมีแขมีสีสันพอๆ กับรอยยิ้มของเธอ

จะ “แจ่ม” “เจมส์” หรือ “รัศมีแข” ก็โดนล้อว่า “ขวานฟ้าหน้าดำ”
ในระหว่างให้สัมภาษณ์รัศมีแขมักเรียกแทนตัวเองว่า “แข” ทั้งๆ ที่ชื่อจริงของเธอคือ “เจมส์ ฟอเกอร์ลุนด์” มีเชื้อสายลูกครึ่งไทย-อเมริกัน เกิดที่เมืองไทยและอยู่ที่นี่จนอายุ 10 ขวบก่อนจะตามไปอยู่กับคุณแม่ที่สวีเดนหลังคุณแม่แต่งงานใหม่

แม้จะเกิดที่ภูเก็ต แต่ชีวิตก็ย้ายไปอยู่จังหวัดนั้นจังหวัดนี้บ่อยครั้ง และเป็นเรื่องธรรมดาที่เธอยอมรับว่าลูกครึ่ง ผิวดำ และเพศทางใจไม่ตรงกับเพศทางกายแบบเธอ จะไปอยู่ที่ไหนก็ต้องโดนล้อ โดนแกล้ง

“แขมีพี่สาวคนละพ่อเป็นลูกครึ่งสวิสเซอร์แลนด์ ขาว สวย แต่แขเป็นลูกครึ่งอัฟโฟรอเมริกัน จะโดนเปรียบเทียบตลอด เมื่อก่อนก็งงว่าทำไมต้องมาว่าเราเป็นมูฮัมหมัด อาลี ให้ถอดเสื้อแล้วชกมวย เราอายนมเรามาก มีแต่คนบอกว่าเราเหมือน ไปไหนก็มีแต่คนเรียกขวานฟ้าหน้าดำ ข้าวนอกนา เราก็งงว่าคืออะไร แต่ไม่โกรธ”

ใช้ “จุดอ่อน” ผลักดันให้เกิด “จุดแข็ง”
เมื่อย้ายไปอยู่สวีเดนกับคุณแม่ การอยู่ร่วมกับชาวต่างชาติ ยิ่งทำให้รู้สึกกดดันเนื่องจากเด็กสวีเดนแท้ๆ ไม่ยอมรับชาวต่างชาติ และเธอยังมีปัญหาเรื่องภาษา ปีแรกของการเรียนเธอจึงดร็อปทุกวิชาเพื่อมุ่งมั่นเรียนภาษาสวีเดนให้แข็งแรง

“ภาษาเราสู้เขาไม่ได้ แทนที่เราจะเสียใจ เราก็โอเคและสู้ไปกับปัญหา แม้จะโดนล้อว่าเป็นตุ๊ด แต่ไม่โกรธ เพราะเรารู้ตัวดีอยู่แล้ว แต่พอภาษาเราไม่เก่ง เราเลยหันไปเอาดีเรื่องงานฝีมือ วาดรูป พละ แค่นี้ก็ทำให้เรากลายเป็นเด็กดังในโรงเรียน พอดังก็เริ่มได้รับการยอมรับ การล้อก็เริ่มหายไป ตอนนั้นคิดตลอดเวลาว่าเราต้องเป็นเด็กดี ต้องเป็นที่รักของอาจารย์ มันก็หนีไม่พ้นที่จะมีคนเกลียด”

เมื่อเข้าไฮสคูลเธอโดนล้อหนักขึ้นไปเรื่อยๆ แม้จะรับจ้างเป็นพนักงานร้านขายสิ่งของชำหาเงินใช้เอง ไม่มีเงินเก็บเงินซื้อกระเป๋าใบละ 7 หมื่นใช้ได้ ก็มิวายโดนเพื่อนแกล้งสารพัด รุนแรงทั้งที่ขนาดเผากระเป๋าในล็อกเกอร์ โชคยังดีที่วันนั้นเธอไม่ได้ใช้กระเป๋าใบแพง แต่ถ้าว่ามันก็สะท้อนว่าเธอไม่ได้รับการยอมรอง

“เคยมีพวกแขกท้าเราไปตีหลังโรงเรียน เราเป็นคนไม่คิดอะไร เลยบอกได้ แต่บอกฉันไม่ไปไหน ถ้าจะตีก็ตีกันตรงนี้ ไอ้นั่นก็ไม่กล้า กลัวคนเห็น”

ตัวตนที่แท้จริงของฉันอยู่หนใด ?
เพราะเพศที่ไม่ได้ออกเสียงตั้งแต่แรกทำเอื้ออำนวยเธอมุ่งมั่นหาจุดยืนของตัวเอง หลังเรียนจบการโรงแรมเธอสมัครงานบริษัทเมคอัพสโตร์ และมีโอกาสบินมาทำงานพื้นดินเมืองไทย ถ้าว่ากลับพบว่าไม่ใช่สิ่งที่อยากทำ จนมีโอกาสพบกับคุณโอ ศิระ ที่ช่วยเตือนสติให้ค้นหาตัวเอง เมื่อกลับสวีเดนก็ไปสมัครเป็นตัวแทนขายตั๋วเครื่องบินท้ายที่สุดก็พบว่ายังไม่ใช่พักดี

ในช่วงเวลาที่ยังสับสน วอลเลย์บอลคือกีฬาที่เธอเลือกสดเป้าหมายสั้นๆ รอการค้นพบตัวตนพื้นที่แท้จริง
“ตอนนั้นอายุ 26 ทำงานเสิร์ฟอาหารที่ร้านอาหารไทยอาทิตย์ละ 1 วัน แขดำรงอยู่กับแฟน ไม่ได้คิดอะไรมาก ขอแค่ได้เล่นวอลเลย์บอลอาทิตย์ละ 1 วันกับแก๊งค์ตุ๊ด แก๊งค์เกย์ไทย เล่นเป็นบ้าเป็นบอ ไม่ทำอะไรเลย ตื่นเช้าส่งหลาน กลับมากินข้าว เดินไปสนามวอลเลย์บอล พอเล่นเสร็จแฟนก็มารับ วันอาทิตย์ตื่นเช้าไปทำงาน 9 โมงถึง 5 ทุ่ม คือแบบนี้ตลอด”

ชีวิตเคว้งคว้างไร้จุดหมาย กระทั่งคิดว่าจะขอเล่นวอลเลย์บอลกับใช้ชีวิตแบบนี้ไปจนถึงอายุ 30 แล้วค่อยหางานทำเป็นเรื่องเป็นราว

มีวันนี้เพราะพี่ (แท่ง) ให้
ความรักชอบการแสดง ในสวีเดนเธอจึงเป็นที่รู้จักและมักรับจ้างเป็นพิธีกรงานต่างๆ บ่อยครั้ง กระทั่งมีโอกาสเป็นไกด์นำเที่ยวให้แท่ง ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง และแท่งคือผู้ที่เห็นคาแรคเตอร์ของเธอก่อนเอ่ยปากชวนให้กลับมาอยู่เมืองไทย คำชักชวนนั้นกลายเป็นเชื้อไฟแห่งความฝันและความหวัง แม้ตอนนั้นสมัครแอร์โฮสเตสไว้ เธอกลับตัดสินใจหนีมาเมืองไทยเพื่อตามฝันการเป็น “ดารา”

“แขไปเลยค่ะ ประกวด KPN รอบสุดท้าย เราแค่คิดว่าเราต้องได้ออกทีวี เราก็สดตัวของตัวเองแบบนี้ มือสั่นด้วย สุดท้ายเข้ารอบ 30 คนสุดท้าย แต่ก็ได้แค่นั้น ส่วนนั้นเราคิดว่าเราจะต้องทำอะไรสักอย่างให้พี่แท่งภูมิใจ”

ผละนั้นเธอตัดสินใจเขียนเรซูเม่เดินเข้าดำเนินที่ตึกแกรมมี่บอกเจตนารมณ์ดุอยากเป็นดารา เจ้าหน้าที่แนะนำให้ขึ้นไปติดต่อส่วนที่เกี่ยวข้อง เป็นความบังเอิญที่เธอเจอกับพี่ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ซึ่งเห็นแววและมอบงานพิธีกรสน.ฮอลลีวูด รายการแรก ก่อนจะตามด้วยละคร Club Friday To be Continued ตอนความลับของมิ้นต์กับมิว ด้วยกันผลงานอื่นๆ

“ตอนนั้นแนะนำตัวกับพี่ฉอดว่าเราชอบเต้นกินรำกิน พอได้ทำงานก็ภูมิใจ พอไปเล่นมิ้นต์กับมิว เราใหม่มาก เราเล่นใหญ่เต็มที่ คนก็เริ่มจำได้ แต่พอมาเล่นละครเรื่อง “เพื่อนรักเพื่อนร้าย” ในบทเอ็นจอย คนก็จำได้ พอได้งานกระวีกระวาดบอกพี่แท่งเลย”

“พี่แท่งทำได้แล้ว พี่แท่งบอกเก่งมาก ตอนนั้นมันจะร้องไห้เลยนะ ผละนั้นพี่แท่งก็สอนเรื่องการทำงานในวงการ เน้นมากเรื่องเวลา ห้ามดื่มเหล้า ต้องเคารพผู้ใหญ่”

เด็กนอก…บนเวทีที่ไม่มีอยู่พี่เลี้ยง
จากเด็กนอกมาหาอยู่เมืองไทยแบบไร้ขาแนะนำ ตอนแรกเธอจึงต้องปรับตัวส่งมอบเข้ากับผู้ร่วมงาน วิธีการทำงานแบบคนไทย วัฒนธรรมความเป็นคนไทย บางครั้งแม้จะเตรียมใจไว้แล้ว แต่กับบางเรื่องก็ไม่คิดว่างานเบื้องหน้าที่สวยหรูกลับมีเบื้องปฤษฎางค์ยากลำบาก

“ทำใจไว้ส่วนหนึ่งตำหนิติเตียนเรามาทำงาน พี่ๆ ทุกคนยังไม่ตายดาราดังกันหมด เราต้องอยู่ให้ได้ ประการเราไม่รู้มาก่อนว่าเวลาถ่ายละครต้องไปยืนกลางแดดร้อนๆ บางทีถ่ายดึก ไม่ได้นอน นอนกลางดินกินกลางทราย เมื่อก่อนเราไม่เคยรู้แต่ตอนนี้เรารู้แล้ว และมีความสุขมากกับการอยู่เบื้องหลัง ตอนนี้อยากเล่นได้หลายๆ อย่าง เล่นเป็นผู้ชายก็อยาก”

“งานในวงการบันเทิงสอนอุดหนุนเรามีความรับผิดชอบ กับมันเป็นงานถิ่นที่ทำให้คนมีความสุข เพราะว่าเราเคยอยู่ในจุดที่คนล้อเรา เราเกลียดเมืองไทย ไม่อยากมา แต่วันหนึ่งกลับพลิกจุดนั้น เรากลับเป็นคนที่ทำให้คนไทยมีความสุข ทำให้เรายิ่งมีความสุข งานในวงการบันเทิงเป็นงานเล็กๆ ที่ทำให้หลายคนมีความสุข เรารู้สึกว่าเราได้ประกอบกิจอะไรให้คนอื่นค่อย รู้สึกตัวเองมีค่า”

สำคัญที่สุดคือรู้จักตัวเอง
แม้แผ่นดินผ่านมาปมเรื่องสีผิว รูปร่าง หน้าตา เนื้อความผิดเพศที่คนอื่นมอบให้จักฝังลึกเป็นปมในใจ แต่เมื่อเธอเลือกที่จะทำความรู้จักตัวเอง ยอมรับและแก้ปัญหานั้น ในวันนี้สิ่งที่มีค่าที่สุดคือการค้นพบตัวเองและภูมิใจอย่างในที่ตัวเองครอบครอง

“แขอยากตัวเล็ก แขทำไม่ได้เพราะแขสูง แขไม่สามารถเหลากระดูกได้ แขอยากขาวแต่ขาวไม่ได้ กระทำการได้แต่จะเป็นมะเร็ง เมื่อเป็นแบบนั้นเราจะอยู่อย่างไร เราก็อยู่แบบตัวใหญ่ๆ อยู่แบบตัวดำ อยู่ให้รู้ว่าฉันสูง ขายาว อย่าสละให้ฉันมีซิกแพคนะ หุ่นฉันจะสวยมาก มันคือการค้นหาตัวเอง เราไม่ได้หาจุดด้อยเครื่องใช้ตัวเอง เราหาจุดเด่นของตัวเองให้เจอ แขทำศัลยกรรมได้แต่ไม่ทำ เพราะแขมีความสุขกับตรงนี้มาก เมื่อเรายอมรับตัวเองปุ๊บ ใจฉันก็จะเปิด อีกอย่างแขอยากให้เลิกฝังความคิดเรื่องความดูดีต้องขาว ต้องสูง ต้องผอม ตัวเล็ก เราควรภูมิใจในแบบที่เราเป็นเรา และการล้อคนอื่นที่เรื่องเหล่านี้มันทำให้คนๆ นั้นมีปม ซึ่งไม่ใช่เรื่องดี”

การมองชีวิตให้เห็นด้านสุขไม่ง่ายถ้ากูไม่เคยเห็นด้านตรงกันข้ามของมันมาก่อน รัศมีแขอยู่กับดักปมเหยียดมาตั้งแต่เด็ก บางคนเลือกจมปลักติดทุกข์อยู่กับปมนั้น แต่เธอเลือกติดสุข ติดสนุก ด้วยกันเอ็นจอยกับเลี่ยนมากกว่า จึงไม่รู้สึกแปลกใจเมื่อเห็นเธอแล้วเราจะรู้สึกได้รับความสุข ความสนุกส่งผ่านหน้าจอ

ข้อมูลจาก http://women.sanook.com/48835/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าวด่วน