วันจันทร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2561

กระจ่าง มาดูกันว่า iPhone 8 ที่มีรอยบากด้านบนจะมีการแสดงผลเวลาและแบตเตอรี่อย่างไร

ก่อนหน้านี้มีการเปิดเผยข้อมูลการดีไซน์หลายส่วนของ iPhone 8 ตั้งแต่หน้าตาตัวเครื่องที่มีรอยบากด้านบนรวมถึงการใช้งานเมื่อไม่มีปุ่มโฮม ล่าสุดมีการเผยแพร่ภาพหน้าตาการแสดงผลบริเวณรอยบากมาเพิ่มเติมอีกด้วย

1433873-thumbnail

นักพัฒนา Guilherme Rambo ได้เผยแพร่ภาพและคลิปการแสดงผลหน้าจอของ  ในส่วนที่เป็นรอยบากด้านบนที่หลายๆ คนสงสัยมานานว่ามันจะแสดงผลอย่างไรหากมีอะไรกั้นตรงกลาง โดยด้านซ้ายจะแสดงเวลา ส่วนด้านขวาจะแสดงตำแหน่ง Wi-Fi, แบตเตอรี่ และสัญญาณโทรศัพท์ครับ

ในส่วนของคลิปนั้น Rambo ได้เผยแพร่ทางทวิตเตอร์ส่วนตัวของตนดังภาพด้านล่าง ซึ่งสัญลักษณ์บนส่วนแสดงผลนั้นจะมีการย่อ/ขยายเมื่อมีสัญลักษณ์อื่นๆ เข้ามามากขึ้นด้วย

There’s a nice little animation when you connect it to power pic.twitter.com/GFimRxbCAm

— Guilherme Rambo (@_inside) September 9, 2017

//platform.twitter.com/widgets.js

นอกจากนี้ Steven Troughton-Smith นักพัฒนาอีกคนยังได้เผยแพร่ภาพสเตตัสบาร์เช่นเดียวกัน โดยเป็นตัวอย่างเมื่ออุปกรณ์กำลังบันทึกหน้าจอหรือมีสายเรียกเข้า จะมีสีแสดงตรงส่วนของเวลาครับ

Here’s what the ‘double height’ statusbar looks like — screen recording, or in-call. The ears are interactive pic.twitter.com/bdacrEYMCw

— Steve T-S (@stroughtonsmith) September 9, 2017

//platform.twitter.com/widgets.js

งานนี้ก็เรียกว่าหลุดออกมาซะเกือบหมดเปลือก อีกหนึ่งอย่างที่น่าลุ้นก็คือเรื่องราคานั่นเองครับ

อ่านเพิ่มเติมที่ http://hitech.sanook.com/1433873/

 

สูตรเค้กกล้วยหอมลูกเกดแบบง่ายและทันใจ

นอกจากจะช่วยเรื่องระบบขับถ่าย ส่งเสริมการทำงานของไตให้มีประสิทธิภาพและเพิ่มความแข็งแรงให้กระดูกแล้ว สูตรอาหารนี้ยังช่วยให้คุณใช้กล้วยหอมที่สุกงอมเกินจะกินยังมีชีวิตอยู่ผลไม้มาทำขนม แห่งแสนอร่อยจนทุกคนข้างในครอบครัวติดใจอีกด้วย

ส่วนผสมสูตรเค้กกล้วยหอมลูกเกด


กล้วยหอม 3 ลูก
น้ำตาล ¾ ถ้วย
ไข่ไก่ 1 ฟอง
เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
ผงฟู 1 ช้อนชา
เกลือ ½ ช้อนชา
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ½ ถ้วย
เนยละลายแล้ว 1/3 ถ้วย
กลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา
ลูกเกด 1/3 ถ้วย

 

 

 

วิธีทำเค้กกล้วยหอมลูกเกด

1 เปิดเตาอบเขตอุณหภูมิ 190 องศาเซลเซียส
2 นำกล้วยหอมมาบดพักเก็บสัก 20 นาทีเพื่อให้สีเข้มขึ้น
3 ระหว่างที่รอกล้วยหอมมีสีเข้มขึ้น ให้ร่อนของแป้งแป้งสาลีอเนกประสงค์ เกลือ ผงฟู เบกกิ้งโซดา รวมกันในภาชนะอีกใบพักไว้
4 นำกระดาษ หรือถ้วยมาหาเรียงไว้ในถาดอาบขนม
5 เมื่อครบ 20 นาทีให้เติมน้ำตาล ไข่ และกลิ่นวนิลา ลงไปในกล้วยหอม ผสมให้เข้ากันแล้วจึงเติมเนยที่ละลายและลูกเกดแล้วลงไป ผสมให้เข้ากัน
6 เติมส่วนผสมแห้งแห่งเตรียมไว้ในภาชนะอีกใบในที่ผสมไว้แล้วมาผสมรวมกับส่วนผสมของเหลว
7 ตักส่วนผสมเค้กกล้วยหอมใส่ลงไปในกระดาษอบที่เตรียมไว้ประมาณ ¾ ของถ้วย เพื่อมอบให้เวลาอบแล้วขนมไม่ล้นออกนอกถ้วยค่ะ นำเคลื่อนอบประมาณ 20 นาที รอให้เย็นก็เตรียมลิ้มรสความอร่อยได้เลยค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก http://women.sanook.com/19883/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เคล็ดลับความงาม

เปรียบเทียบ Nokia 8 และ Samsung Galaxy S8 เรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจากสองค่ายใหญ่

เปรียบเทียบ Nokia 8 และ Samsung Galaxy S8 เรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจากสองค่ายใหญ่

เปรียบเทียบ Nokia 8 และ Samsung Galaxy S8 เรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจากสองค่ายใหญ่

thaimobilecenter

สนับสนุนเนื้อหา

เปรียบเทียบ  และ Samsung Galaxy S8 เรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจากสองค่ายใหญ่ รุ่นใดฟีเจอร์ไฮเอนด์จัดเต็มครบครันกว่ากัน เรามีคำตอบ!

ในที่สุดก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วสำหรับ Nokia 8 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นแรกภายใต้แบรนด์ Nokia หลังจากที่ปล่อยสมาร์ทโฟนระดับกลางอย่าง Nokia 6, Nokia 5 และ Nokia 3 รวมถึงฟีเจอร์รุ่นอื่นๆ มาทำตลาดก่อนตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา เรียกได้ว่า Nokia 8 มาพร้อมกับความไฮเอนด์แบบครบครันในทุกองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอคมชัดระดับ 2K QHD, ชิปเซ็ต Snapdragon 835 และกล้องถ่ายภาพแบบคู่ (Dual-Camera) พร้อมเลนส์ Carl Zeiss ทั้งด้านหน้า และหลัง รวมถึงคุณสมบัติในการป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่น ก็รองรับใน Nokia 8 รุ่นใหม่นี้ด้วยเช่นเดียวกัน

สำหรับสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นที่ได้รับความสนใจจากทั้งสื่อ และผู้ใช้ทั่วโลกตั้งแต่เปิดตัวอย่างเป็นทางการจนกระทั่งขณะนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Samsung Galaxy S8 ที่มาพร้อมกับการพลิกโฉมดีไซน์หน้าจอไร้ขอบแบบใหม่ รวมถึงอัปเกรดฟีเจอร์ภายในขึ้นจากรุ่นก่อนในหลายด้าน รวมถึงรองรับผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง Bixby และการสแกนม่านตา (Iris Scanner) ที่ช่วยยกระดับมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยขึ้นไปอีกขั้น

และด้วยความโดดเด่นแบบกินกันไม่ลงของทั้งสองรุ่นนี้ ทางทีมงาน Thaimobilecenter จึงได้นำ Nokia 8 และ Samsung Galaxy S8 มาทำการเปรียบเทียบฟีเจอร์ และคุณสมบัติเด่นให้ได้ชมกันแบบช็อตต่อช็อต ว่าทั้งสองรุ่นมีความโดดเด่นในด้านใดบ้าง และจะแตกต่างกันมากน้อยเพียงใด หากพร้อมแล้วเชิญติดตามการเปรียบเทียบอย่างละเอียดที่ตารางด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ


untitled-2

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับเพื่อการเทียบสมาร์ทโฟนเรือธงที่ปีของสองค่ายยักษ์ใหญ่ในวงการสมาร์ทโฟน จะมองเห็นได้ว่าแต่ละรุ่นก็มาพร้อมฟีพบร์ระดับท็อปอย่างครบถ้วน และก็มีความสะดุดตาในด้านที่แตกต่างออกไปอย่างชัดเจน โดย Nokia 8 มาพร้อมกับจอขนาดกะทัดรัดที่ 5.3 นิ้ว ความละเอียดระดับ 2K Quad HD พร้อมขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 835 รวมทั้งมีหน่วยความจำแรม(RAM) ขนาด 4GB โดยมีความจุ 64GB ที่สามารถเพิ่มการ์ดหน่วยความจำด้านนอกแบบ microSD อีก 256GB และมีแบตเตอรี่ปริมาตร 3090 mAh พร้อม Fast Charge บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat และรองรับ Google Assistant

Nokia 8 มาพร้อมกล้องถ่ายภาพคู่ (Dual-Camera) ที่ด้านหลังความละเอียด 13 13 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ Carl Zeiss อีกทั้งด้านหน้า-ข้างหลัง รองรับระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS รวมทั้งกล้องถ่ายภาพหน้าความละเอียดเท่ากันที่ 13 ล้านพิกเซล โดยมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0 ซึ่งตัวเครื่องรองรับคุณสมบัติการคุ้มครองป้องกันน้ำ และก็ป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP57 รวมถึงเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner) และก็การเชื่อมต่อแบบ USB Type-C ซึ่งมีราคาเปิดตัวที่ 599 ยูโร (โดยประมาณ 23,500 บาท)

สำหรับ Samsung Galaxy S8 มีจุดแข็งในด้านการวางแบบโฉมใหม่ที่มีหน้าจำสำหรับแสดงผลไม่มีขอบแบบInfinity Display ขนาดใหญ่ขึ้นที่ 5.8 นิ้ว บนตัวเครื่องขนาดเท่ารุ่นเดิม พร้อมชัดแจ๋วระดับ 2K QHD และขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Exynos 8895 พร้อม RAM 4GB, ROM 64GB ที่สามารถเพิ่มการ์ด microSD ได้อีก 256GB บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat โดยมีแบตเตอรี่ปริมาตร 3000 mAh พร้อมระบบ Fast Charge และก็รองรับปัญญาประดิษฐ์อย่าง Bixby

Samsung Galaxy S8 ใช้งานกล้องถ่ายสำหรับรูปแบบ 100% AF Dual Pixel ควมละเอียด 12 ล้านพิกเซลที่มีขนาดรูรับแสงสว่างกว้างสูงสุดที่ F/1.7 พร้อมรองรับระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS แล้วก็กล้องถ่ายรูปหน้าสำหรับเซลฟี้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รวมถึงรองรับเซ็นเซอร์สแกนลายพิมพ์นิ้วมือ (Fingerprint Scanner), เซ็นเซอร์สแกนม่านตา (Iris Scanner) และการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C บนตัวเครื่องคุ้มครองป้องกันน้ำ-คุ้มครองฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 ซึ่งสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ในราคา 27,900 บาท

อย่างไรก็ดี นอกจากไปจากคุณภาพการทำงาน รวมทั้งคุณลักษณะเด่นในด้านต่างๆแล้ว ความชอบ และรสนิยมส่วนตัวก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่ไม่สมควรมองข้ามสำหรับการเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือสักเครื่องหนึ่ง ดังนี้ก็เลยขึ้นกับเพศผู้ใช้เองว่ามีความต้องการสมาร์ทโฟนที่โดดเด่นในด้านใด เพื่อตอบโจทย์การใช้งานในไลฟ์สไตล์ของท่านได้ดิบได้ดีที่สุด ซึ่งแม้ว่าได้ตรวจสอบและลองใช้งานในเบื้องต้นแล้วเกิดความพึงพอใจอีกทั้งในด้านการทำงาน, วางแบบ และราคา ก็ถือว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนั้นมีคุณค่าต่อการจองเป็นเจ้าของแล้วจ้ะ สำหรับวันนี้ทางทีมงานจำเป็นต้องลาไปก่อน แล้วพบกันได้ใหม่ในบทความหน้า สวัสดีค่ะ

 

สรุปข้อมูล และข่าวอัปเดตล่าสุดของ Nokia 8

สรุปข้อมูล และข่าวอัปเดตล่าสุดของ Samsung Galaxy S8
สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ Samsung Galaxy S8
รีวิว (Review) Samsung Galaxy S8

 

รวมเรื่องราว nokia 8 ที่นี่ คลิ๊ก!!!

สนับสนุนเนื้อหา http://hitech.sanook.com/1432121/

ดวงสมพงษ์ ของชาว ราศีพฤษภ กับ ราศีสิงห์ โดยอาจารย์ลี่

คู่รักชาวพฤษภกับชาวสิงห์เป็นคู่ที่ควรจะทึ่ง เพระต่างคนต่างรู้ว่าจะสยบอีโก้และอารมณ์เดือดๆของอีกฝ่ายได้ดังไร และต่างฝ่ายต่างชอบที่จะโดนสยบด้วย คุณทั้งคู่มีความต้องการตรงกัน ชาวพฤษภอยากได้ความรักความใส่ใจ ในขณะที่ชาวสิงห์หวังได้คำชมเชยและการยอมรับ ทั้งคู่ต่างซื่อสัตย์กับคนรักของตัวเองพร้อมด้วยชอบบ่งความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ความต้องการที่เหมือนกันนี้ทำให้คุณสามารถตอบสนองอีกฝ่ายคว้าเป็นทำนองดี

ระดับความเป็นคู่แท้

ทั้งชาวพฤษภและชาวสิงห์ชอบการแสดงความรักและความเป็นเจ้าของ ชาวสิงห์มักสร้างสีสันด้วยการมอบอำนาจของขวัญพร้อมด้วยความใส่ใจ ซึ่งทำให้ชาวพฤษภผู้ชื่นชอบงานแสดงออกเรื่องความรักสุดแสนจะปลื้ม ถึงแม้คุณทั้งคู่จะทำงานเข้าขายับยั้งได้ดี แต่ก็ใช่ว่าหนทางจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะต่างคนต่างก็ดื้อรั้นและต้องใช้ความพยายามอย่างหนักในการทำความเข้าใจและยอมรับอีกฝ่าย

ราศีพฤษภได้รับอิทธิพลจากดาวศุกร์ (ความรักและเงินทอง) ราศีสิงห์จัดหามารับอิทธิพลจากดวงอาทิตย์ (ความมั่นใจในตัวเอง) ดวงอาทิตย์ให้แสงสว่างและความอบอุ่น เช่นเดียวกับที่ชาวสิงห์มีพลังและความกระตือรือร้น ส่วนดาวศุกร์คือความรัก ความหรูหราพร้อมทั้งความสวยงาม พลังหยางและพลังหยินที่ประสานกันอย่างลงตัวนี้ทำให้คุณทั้งคู่ยอมคล้องซึ่งกันและกัน ดาวศุกร์ไม่เคยอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ คุณสองคนจึงใกล้ชิดปิดป้องเสมอ ดวงอาทิตย์ให้ชีวิต ส่วนดาวศุกร์ให้ความรัก ตราบใดที่ต่างฝ่ายยังคงพยายามปรับความเข้าใจกัน ความสัมพันธ์เครื่องใช้คุณจักยังอยู่ยงสวยงาม

ราศีพฤษภเป็นธาตุดิน ส่วนราศีสิงห์ทั้งเป็นธาตุไฟ ทั่วสองราศีมีเนื้อความทะเยอทะยานคนละแบบ ชาวสิงห์ใฝ่หาชื่อเสียงและโชคลาภ ส่วนชาวพฤษภปรารถนาชีวิตและความรักที่มั่นคง คุณทั้งคู่มักแย่งชิงความเป็นผู้นำกันเสมอ และแม้ว่าการทะเลาะถกเถียงอาจรุนแรงยืดเยื้อไปบ้าง แต่ถ้าว่าเมื่อคุณสองคนระลึกได้ว่าความสัมพันธ์ของคุณมีค่าเพียงใด ทุกอย่างก็จะคลี่คลาย

ทั้งชาวพฤษภและชาวสิงห์เป็นคนดื้อรั้น ลงได้ตัดสินใจอะไรแล้วก็จะเปล่าเปลี่ยนความคิดง่ายๆ ต่างเชื่อมั่นว่าความคิดของตัวเองถูกและเป็นหนทางเดียวในการคลี่คลายปัญหา ทั้งคู่ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง จะทำอะไรแบบเดิมซ้ำๆไปเรื่อยแม้ว่าบางสิ่งจะปรับเปลี่ยนได้ และเมื่อตัดสินใจจะใช้ชีวิตคู่กับใครแล้วก็แทบไม่มีอะไรมาพรากคุณออกจากกันได้เลย สิ่งที่ดีที่สุดในความสัมพันธ์ของชาวพฤษภกับชาวสิงห์คือการยอมรับซึ่งกันและกัน ระหว่างคุณสองคนไม่มีใครเหนือกว่าใคร หากคุณเปิดใจและร่วมมือกันเพื่อก้าวไปสู่เป้าหมาย คุณสองคนก็จะกลายเป็นคู่ที่ยอดเยี่ยมที่สุด

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://horoscope.sanook.com/play/lovematching/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ดวงสมพงษ์

4 สิ่งที่น่าจับตามองใน Nokia 8 เรือธงตัวแรกกับการกลับมาของโนเกีย

4 สิ่งที่น่าจับตามองใน Nokia 8 เรือธงตัวแรกกับการกลับมาของโนเกีย

4 สิ่งที่น่าจับตามองใน Nokia 8 เรือธงตัวแรกกับการกลับมาของโนเกีย

S! Hitech (Rewrite)

สนับสนุนเนื้อหา

เป็นอีกโทรศัพท์มือถือรุ่นหนึ่งที่หลายท่านมีความสนใจไม่น้อยนั่นเป็น โนเกีย 8 ซึ่งกำลังจะขายในประเทศไทยไม่ช้านี้รวมถึงทั่วโลก วันนี้เลยจะมาดูข้อมูลกันหน่อยว่า 4 สิ่งที่ทำให้โทรศัพท์มือถือรุ่นนี้น่าสนใจจะมีอะไรบ้าง มาดูกัน

ครั้งแรกของ มือถือ Android ที่ใช้กล้องหลังเลนส์คู่จาก Zeiss

 

เป็นมือถือที่มีกล้องหลังคู่ขนาด 13 ล้านพิกเซล แม้จะดูธรรมดา แต่การที่ได้เลนส์ Zeiss ครั้งแรกของการทำมือถือ ก็เป็นอีกสิ่งที่น่าสนใจไม่เบาเลย และก่อนหน้านี้ Nokia ก็เคยใช้เลนส์ Zeiss มาก่อน การกลับมาใช้เลนส์ Zeiss ครั้งถือว่าน่าตื่นเต้นไม่เบา

ระบบบันทึกเสียงรอบทิศ Nokia OZO

 

เป็นครั้งแรกของ โนเกียที่นำระบบ OZO ซึ่งเป็นระบบอัดเสียงที่มีการใช้จาก Hollywood ซึ่งจะบันทึกเสียงผ่านวีดีโอได้รอบทิศคราวแรกบนมือถือ

ถ้ามองถึงฟีเจอร์การถ่ายรูปแล้ว กล้องของ  นั้นมีให้ทั้งสามารถถ่ายภาพได้พร้อมกันทั้งกล้องหน้าและหลัง โดยฟีเจอร์ดังกล่าวสามารถใช้งานทั้งถ่ายวีดีโอ และ Live ผ่าน Social Network

ครั้งแรกของโนเกียกับมือถือ Android สเปคระดับบน

 

ปกติ Nokia ภายใต้การนำผลิต HMD Global เปิดตัวโทรศัพท์มือถือที่ราคาแพงอยู่ระหว่าง 5,000 – 8,000 เพียงแค่นั้น ยังไม่มีมือถือที่ราคาแพงกว่านั้น ก็เลยทำให้ Nokia 8 เป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นแรกที่ตีราคาให้สูงที่สุดเท่าที่ HMD Global เปิดตัวในปีนี้ โดยมีราคาอยู่ที่ 19,500 บาท ในประเทศ นับว่าสูงสุด แต่ว่าก็มีลูกรวมทั้งความโก้หรูของเครื่องพอได้ด้วยเหมือนกัน

แล้วก็ทั้งปวงนี้จะถูกใจไหมแล้วเล่นจริงเป็นอย่างไร พรีวิวอาจจะจะต้องติดตามกันถัดไป

รวมเรื่องราว nokia 8 ที่นี่ คลิ๊ก!!!

สนับสนุนเนื้อหา http://hitech.sanook.com/1432825/

วิธีดูแลตนเองเมื่อเป็น...โรคกระเพาะ

วิธีดูแลตนเองเมื่อเป็น...โรคกระเพาะ

วิธีดูแลตนเองเมื่อเป็น...โรคกระเพาะ

ในสังคมปัจจุบันมีแต่การแข่งขัน ทำถวายการดำเนินชีวิตในที่แต่ละวันของทุกคนต้องเร่งรีบไปด้วย ส่งผลให้สุขภาพของคนในสังคมแย่ลงและปัญหาทาง สุขภาพที่พบได้บ่อย คือ การเกิดแผลในกระเพาะอาหารหรือลำไส้เล็กส่วนต้น ซึ่งโดยทั่วไปเราเรียกกันว่า “โรคกระเพาะ”

โรคกระเพาะเป็นโรคที่พบได้บ่อยโรคหนึ่ง ประมาณว่าคนทั่วไปมีโอกาสเป็นโรคนี้ในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต โดยการเกิดแผลในกระเพาะมักพบในวัยกลางคน ขณะที่การเกิดแผลที่ลำไส้เล็กส่วนต้นจะพบในวัยหนุ่มสาว อย่างไรก็ตามการเกิดแผลในกระเพาะอาหารหรือแผลที่ลำไส้เล็กส่วนต้นสามารถเกิดขึ้นได้ในคนทุกเพศและทุกวัย

สาเหตุ เกิดจากมีการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารมากเกินเดินทางร่วมกับความต้านทานต่อกรดของเยื่อบุกระเพาะอาหารและลำไส้ลดลง จึงทำให้มีแผลเกิดขึ้น และปัจจุบันพบว่ายังมีปัจจัยเสริมอื่นๆที่ทำให้เกิดโรคได้อีก ได้แก่
1
1. การติดเชื้อเฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร (Helicobactor Pylori ) ซึ่งเป็นแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่โทรโดยการรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อจากอุจจาระของผู้ติดเชื้อ เชื้อนี้เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะเข้าไปฝังตัวอยู่ใต้เยื่อบุกระเพาะ ผนังกระเพาะจึงอ่อนแอลงและมีความทนต่อกรดลดลง ทำให้กระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้นเกิดแผลได้ง่าย แผลหายช้า และเกิดแผลซ้ำได้อีก
2. รับประทานสิ่งที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อกระเพาะและลำไส้ เช่น ดื่มชา กาแฟหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ น้ำอัดลม และการรับประทานยาบางชนิด เช่น ยาแก้ปวดจำพวกแอสไพริน ยารักษาโรคกระดูกและข้ออักเสบ ยาชุดหรือยาลูกกลอนที่มีสเตียรอยด์ เป็นต้น
3. มีอุปนิสัยการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกต้อง เช่น การรับประทานอาหารอย่างเร่งรีบ รับประทานไม่เป็นเวลาหรืออดอาหารบางมื้อ เป็นต้น
4. การสูบบุหรี่ เพิ่มโอกาสข้าวของเครื่องใช้การเป็นแผลที่ลำไส้เล็กส่วนพืชพันธุ์
5. อื่นๆ เช่น ซึมเศร้า วิตกกังวล คิดมาก นอนไม่หลับ เครียด อารมณ์หงุดหงิด พักผ่อนมิเพียงพอ เป็นต้น

อาการของโรคกระเพาะมักมีอาการปวดแสบ ปวดตื้อ จุกเสียดหรือไม่จุกแน่นบริเวณใต้ลิ้นปี่ อาการปวดเหล่านี้เป็นได้ทั้งเวลาก่อนรับประทานอาหารหรือหลังรับประทานอาหารใหม่ๆและเวลาท้องว่าง เช่น เวลาหิวข้าว ตอนเช้ามืดหรือตอนดึกๆก็ปวดท้องได้เช่นกัน อาการปวดจะเป็นๆหายๆ เป็นได้วันละหลายๆครั้ง หรือตามมื้ออาหาร ด้วยกันแต่ละครั้งที่ปวดจะนานประมาณ 15 – 30 นาที อาการปวดจะบรรเทาลงได้ถ้ารับประทานอาหาร ดื่มนมหรือรับประทานยาลดกรด

อาการแทรกซ้อน
โรคกระเพาะถ้าได้รับการรักษาและดูแลตนเองให้ถูกต้องส่วนใหญ่เป็นแล้วจะหาย แต่ถ้าไม่ได้รับงานดูแลรักษาที่ถูกต้องจนมีอาการมากและไม่จบสิ้นอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายแก่ชีวิตได้ เช่น

- เลือดออกในกระเพาะอาหาร เพราะว่าสังเกตได้จากมีถ่ายอุจจาระสีดำหรืออาเจียนเป็นเลือดหรืออาเจียนมีลักษณะคล้ายผงกาแฟบดปนอยู่

- กระเพาะลำไส้เป็นแผลทะลุ โดยสังเกตได้พลัดพรากมีอาการปวดท้องรุนแรงทันทีทันใด หน้าท้องแข็ง กดเจ็บ

- กระเพาะลำไส้ตีบตัน โดยสังเกตได้จากมีอาการปวดท้อง รับประทานอาหารได้น้อย อิ่มเร็ว และอาเจียนเป็นอาหารที่ไม่ย่อยหลังรับประทานอาหาร

การดูแลตนเอง

รับประทานอาหารให้ตรงเวลา
2. รับประทานอาหารอ่อนที่ย่อยง่าย และควรเคี้ยวอาหารให้ละเอียด
3. หลีกเลี่ยงสิ่งระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร เช่น ยาชุด ยาแก้ปวดข้อ ยาซ่อมปวดแอสไพริน โอสถที่มีสเตียรอยด์ น้ำอัดลม อาหารรสจัด เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ อาหารหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ช็อคโกแลต ชา กาแฟ เป็นต้น
4. งดสูบบุหรี่
5. อาหารที่รับประทานในแต่ละมื้อไม่ควรมีปริมาณมากเกินไป
6. ถ้าเครียดพยายามลดความเครียด เช่น ดูหนัง ฟังเพลง ทำสมาธิ การฝึกผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เป็นต้น
7. หมั่นออกกำลังกาย
8. รับประทานยาลดกรด ยาน้ำ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ หรือยาเม็ด 1 - 2 เม็ด(เคี้ยวก่อนกลืน) วันละ 4 ครั้ง เช้า กลางวัน เย็นหลังอาหาร 1 ชั่วโมง และก่อนนอน กรณีมีอาการปวดท้องก่อนเวลายาสามารถรับประทานเพิ่มได้และควรรับประทานยาติดต่อกันนานอย่างน้อย 4 - 8 สัปดาห์
9. ถ้าปฏิบัติตามนี้แล้วอาการไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล เพื่อการตรวจวินิจฉัยที่แน่นอน
10. รับประทานยาสม่ำเสมอตามที่แพทย์แนะนำ
ปวดท้องแบบไหนที่ใช่โรคกระเพาะ ?

ปวดท้องเฉียบพลัน นับยังไม่ตายการปวดรุนแรงที่สามารถไม่เคยเกิดขึ้นมาที่แล้ว โดยเราต้องความสนใจเป็นพิเศษ เพราะอาจเกิดจากโรคอื่นที่ไม่ใช่โรคกระเพาะก็เป็นได้ อาทิ โรคนิ่วในถุงน้ำดี หรือตับอ่อนอักเสบ เป็นต้น
ปวดท้องเรื้อรัง นับเป็นอาการปวดท้องที่สามารถพบได้บ่อยที่สุด จะมีลักษณะอาการเป็นปวดๆ หายๆ ต่อเนื่องกันมาไม่น้อยกว่า 1 เดือน อาจเป็นการปวดท้องที่เกี่ยวข้องกับมื้ออาหาร เช่น ปวดขณะที่หิว หรือปวดขณะที่อิ่ม แต่เป็นการปวดที่ทนได้ ซึ่งเมื่อรับประทานยาลดกรด หรือรับประทานอาหารแล้วก็มีอาการดีขึ้น
โรคในกระเพราะอาหารที่เกี่ยวข้องกับอาการปวดเรื้อรัง ได้มีแพทย์ท่านหนึ่งอธิบายเพิ่มเติมเอาไว้ว่าสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายชนิด เริ่มจาก โรคที่เกิดจากความผิดปกติของกระเพาะอาหาร เช่น การเป็นแผลในกระเพาะ เป็นแผลในลำไส้เล็กส่วนต้น กระเพาะอาหารอักเสบ หรือเป็นมะเร็งในกระเพาะอาหาร ซึ่งอัตราที่จะเกิดโรค หรือภาวะเหล่านี้นั้นมีประมาณร้อยละ 20 - 25 ของผู้ป่วยที่เป็นโรคกระเพาะเรื้อรัง

นอกจากนั้น โรคกระเพาะก็อาจรุ่งได้ ทั้งที่แม้ว่าจะไม่มีความผิดปกติทางกายภาพภายภายในกระเพราะเลย แต่ก็อาจเกิดขึ้นโดยมีสาเหตุมาจากการทำงานที่ผิดปกติ อาทิ การบีบตัวของกระเพาะกับลำไส้ที่ทำงานไม่ประสานกัน หรืออาจเกิดจากสภาพกรดในกระเพาะที่มีมากเกินไป แต่ไม่ทำให้เกิดแผล ซึ่งสาเหตุที่ว่ามานี้ก็ทำให้ผู้ป่วยร้อยละ 70 - 75 ต้องเดินทางมาพบแพทย์ แต่ถึงยังไงก็ตาม ความผิดปกติภายในกระเพาะอาหารที่เกิดจากกรดนั้น ผู้ป่วยก็อาจไม่มีอาการปวดท้องเสมอไป โดยผู้ป่วยหลายรายอาจมีสภาพอาเจียนเป็นเลือด หรือถ่ายอุจจาระดำ มีสาเหตุมาจากแผลในกระเพาะอาหารที่เกิดมาจากกรดเกิน ในบางรายอาจมีอาการแสบแน่นที่หน้าอกเนื่องจากกรดไหลย้อน ทำให้หลอดอาหารอักเสบ รวมไปถึงมีอาการไอ เนื่องจากมีการอักเสบขึ้นมาถึงคอ โดยรวมแล้วก็เป็นเรื่องของโรคกระเพาะอาหารรวมหมดสิ้น

อ้างอิง

พิศาล ไม้เรียง,(2536).โรคทางเดินอาหาร งานวินิจฉัยและการรักษา.(พิมพ์ครั้งที่ 2).ขอนแก่น : โรงพิมพ์คลังนานาวิทยา.
เฟื่องเพชร เกียรติเสวี,(2541).โรคระบบทางเดินอาหาร.(พิมพ์ครั้งที่1).กรุงเทพฯ:เรือนแก้ว การพิมพ์.
สุรเกียรติ อาชานานุภาพ,(2543).ตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป.(พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ : อุษาการพิมพ์.
วันทนีย์ เกรียงสินยศ,(2548).กินอย่างไรเมื่อเป็นโรคกระเพาะ. ใน ประเวศ วะสี(บรรณาธิการ).หมอชาวเหย้าเรือน.(ปีที่ 26 ฉบับที่ 311,หน้า 52-54).

งานการพยาบาลป้องกันโรคและส่งเสริมสุขภาพ
ภาควิชาพยาบาลศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
ผู้เรียบเรียง รุ่งฤดี จิณณวาโส และ ภัทราพร พูลสวัสดิ์

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://health.sanook.com/441/

วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2561

เปรียบเทียบ Nokia 8 และ Samsung Galaxy S8 เรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจากสองค่ายใหญ่

เปรียบเทียบ Nokia 8 และ Samsung Galaxy S8 เรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจากสองค่ายใหญ่

เปรียบเทียบ Nokia 8 และ Samsung Galaxy S8 เรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจากสองค่ายใหญ่

thaimobilecenter

สนับสนุนเนื้อหา

เปรียบเทียบ  และ Samsung Galaxy S8 เรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจากสองค่ายใหญ่ รุ่นใดฟีเจอร์ไฮเอนด์จัดเต็มครบครันกว่ากัน เรามีคำตอบ!

ในที่สุดก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วสำหรับ Nokia 8 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นแรกภายใต้แบรนด์ Nokia หลังจากที่ปล่อยสมาร์ทโฟนระดับกลางอย่าง Nokia 6, Nokia 5 และ Nokia 3 รวมถึงฟีเจอร์รุ่นอื่นๆ มาทำตลาดก่อนตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา เรียกได้ว่า Nokia 8 มาพร้อมกับความไฮเอนด์แบบครบครันในทุกองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอคมชัดระดับ 2K QHD, ชิปเซ็ต Snapdragon 835 และกล้องถ่ายภาพแบบคู่ (Dual-Camera) พร้อมเลนส์ Carl Zeiss ทั้งด้านหน้า และหลัง รวมถึงคุณสมบัติในการป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่น ก็รองรับใน Nokia 8 รุ่นใหม่นี้ด้วยเช่นเดียวกัน

สำหรับสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นที่ได้รับความสนใจจากทั้งสื่อ และผู้ใช้ทั่วโลกตั้งแต่เปิดตัวอย่างเป็นทางการจนกระทั่งขณะนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Samsung Galaxy S8 ที่มาพร้อมกับการพลิกโฉมดีไซน์หน้าจอไร้ขอบแบบใหม่ รวมถึงอัปเกรดฟีเจอร์ภายในขึ้นจากรุ่นก่อนในหลายด้าน รวมถึงรองรับผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง Bixby และการสแกนม่านตา (Iris Scanner) ที่ช่วยยกระดับมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยขึ้นไปอีกขั้น

และด้วยความโดดเด่นแบบกินกันไม่ลงของทั้งสองรุ่นนี้ ทางทีมงาน Thaimobilecenter จึงได้นำ Nokia 8 และ Samsung Galaxy S8 มาทำการเปรียบเทียบฟีเจอร์ และคุณสมบัติเด่นให้ได้ชมกันแบบช็อตต่อช็อต ว่าทั้งสองรุ่นมีความโดดเด่นในด้านใดบ้าง และจะแตกต่างกันมากน้อยเพียงใด หากพร้อมแล้วเชิญติดตามการเปรียบเทียบอย่างละเอียดที่ตารางด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ


untitled-2

 

เป็นยังไงบ้างค่ะสำหรับการเปรียบสมาร์ทโฟนเรือธงแห่งปีของสองค่ายยักษ์ใหญ่ในวงการสมาร์ทโฟน จะเห็นได้ว่าแต่ว่าละรุ่นก็มาพร้อมฟีเจอร์ระดับท็อปอย่างครบครัน รวมทั้งมีความสะดุดตาในด้านที่แตกต่างออกไปอย่างชัดเจน โดย Nokia 8 มาพร้อมกับหน้าจอขนาดกะทัดรัดที่ 5.3 นิ้ว ความละเอียดระดับ 2K Quad HD พร้อมขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 835 และก็มีหน่วยความจำแรม(RAM) ขนาด 4GB โดยมีปริมาตร 64GB ที่สามารถเพิ่มการ์ดหน่วยความจำด้านนอกแบบ microSD อีก 256GB และมีแบตเตอรี่ปริมาตร 3090 mAh พร้อม Fast Charge บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat และก็รองรับ Google Assistant

Nokia 8 มาพร้อมกล้องถ่ายภาพคู่ (Dual-Camera) ที่ข้างหลังความละเอียด 13 13 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ Carl Zeiss ทั้งด้านหน้า-ด้านหลัง รองรับระบบคุ้มครองป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS และกล้องถ่ายรูปหน้าความละเอียดเท่ากันที่ 13 ล้านพิกเซล โดยมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0 ซึ่งตัวเครื่องรองรับคุณสมบัติการคุ้มครองป้องกันน้ำ และก็คุ้มครองฝุ่นตามมาตรฐาน IP57 รวมถึงเซ็นเซอร์สแกนลายพิมพ์นิ้วมือ (Fingerprint Scanner) และการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C ซึ่งมีราคาเปิดตัวที่ 599 ยูโร (โดยประมาณ 23,500 บาท)

สำหรับ Samsung Galaxy S8 มีคุณลักษณะเด่นในด้านการวางแบบรูปแบบใหม่ที่มีหน้าจำสำหรับแสดงผลไร้ขอบแบบInfinity Display ขนาดใหญ่ขึ้นที่ 5.8 นิ้ว บนตัวเครื่องขนาดเท่ารุ่นเดิม พร้อมคมชัดระดับ 2K QHD แล้วก็ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Exynos 8895 พร้อม RAM 4GB, ROM 64GB ที่สามารถเพิ่มการ์ด microSD ได้อีก 256GB บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat โดยมีแบตเตอรี่ปริมาตร 3000 mAh พร้อมระบบ Fast Charge รวมทั้งรองรับปัญญาประดิษฐ์อย่าง Bixby

Samsung Galaxy S8 ใช้งานกล้องถ่ายสำหรับรูปแบบ 100% AF Dual Pixel ควมละเอียด 12 ล้านพิกเซลที่มีขนาดรูรับแสงสว่างกว้างสูงสุดที่ F/1.7 พร้อมรองรับระบบคุ้มครองปกป้องภาพสั่นไหวแบบ OIS และก็กล้องถ่ายรูปหน้าสำหรับเซลฟี้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รวมถึงรองรับเซ็นเซอร์สแกนลายพิมพ์นิ้วมือ (Fingerprint Scanner), เซ็นเซอร์สแกนม่านตา (Iris Scanner) แล้วก็การเชื่อมต่อแบบ USB Type-C บนตัวเครื่องคุ้มครองป้องกันน้ำ-คุ้มครองปกป้องฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 ที่สามารถจองเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ในราคา 27,900 บาท

อย่างไรก็ดี นอกจากไปจากประสิทธิภาพการทำงาน แล้วก็คุณสมบัติเด่นในด้านต่างๆแล้ว ความชื่นชอบ รวมทั้งรสนิยมเฉพาะบุคคลก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรละเลยสำหรับเพื่อการเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือสักเครื่องหนึ่ง ทั้งนี้ก็เลยขึ้นกับตัวผู้ใช้เองว่ามีความต้องการสมาร์ทโฟนที่สะดุดตาในด้านใด เพื่อตอบปัญหาการใช้แรงงานในไลฟ์สไตล์ของท่านเจริญที่สุด ซึ่งแม้ว่าได้ทดลองใช้งานในเบื้องต้นแล้วเกิดความพึงพอใจในด้านการทำงาน, วางแบบ และราคา ก็ถือได้ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนั้นมีค่าต่อการจับจองเป็นเจ้าของแล้วค่ะ สำหรับวันนี้ทางคณะทำงานจะต้องลาไปก่อน แล้วเจอกันได้ใหม่ในบทความหน้า สวัสดีค่ะ

 

สรุปข้อมูล และข่าวอัปเดตล่าสุดของ Nokia 8

สรุปข้อมูล และข่าวอัปเดตล่าสุดของ Samsung Galaxy S8
สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ Samsung Galaxy S8
รีวิว (Review) Samsung Galaxy S8

 

รวมเรื่องราว nokia 8 ที่นี่ คลิ๊ก!!!

สนับสนุนเนื้อหา http://hitech.sanook.com/1432121/

HMD เผยเป็นนัย Nokia รุ่นถัดไปจะมีหน้าจอ ใหญ่กว่า Nokia 8

HMD เผยเป็นนัย Nokia รุ่นถัดไปจะมีหน้าจอ ใหญ่กว่า Nokia 8

HMD เผยเป็นนัย Nokia รุ่นถัดไปจะมีหน้าจอ ใหญ่กว่า Nokia 8

แบไต๋

สนับสนุนเนื้อหา

HMD Global เพิ่งจะเปิดตัว Nokia 8 ไป ล่าสุดมีรายงานจากเว็บ 4pda.ru ของรัสเซียระบุว่า สมาร์ทโฟน Nokia รุ่นถัดไปจะมีขนาดหน้าจอใหญ่กว่า Nokia 8 เสียอีก

รายงานจาก 4pda.ru ระบุว่า Neil Broadlev ผู้จัดการฝ่าย Global Marketing กล่าวว่า “ทางบริษัทไม่ต้องการแข่งกับ Samsung หรือ Apple แต่จะเน้นไปที่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้แทน”

 

แหล่งข่าวได้กล่าวว่าสมาร์ทโฟน Nokia แบบใหม่ (Nokia 9) จะมีหน้าหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นที่จะตอบสนองต่อความปรารถนาผู้ใช้ทั้งสิ้น อาจมีขนาด 5.5 – 5.7 นิ้ว พร้อมกับแรม 6 GB – 8 GB, ความจุ 128 GB, มาตรฐานการป้องกันน้ำ IP68 แล้วก็อาจมีเซ็นเซอร์สแกนม่านตาด้วย

คาดว่า Nokia แบบใหม่ (Nokia 9) จะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2017 นี้

รวมเรื่องราว nokia 8 ที่นี่ คลิ๊ก!!!

สนับสนุนเนื้อหา http://hitech.sanook.com/1432261/

ดวงสมพงศ์ของชาว ราศีกันย์ กับ ราศีกุมภ์ โดยอาจารย์ธนกร

ชาวราศีกันย์ (ระหว่างวันที่ 22 ส.ค. ถึง 21 ก.ย.)

ชาวราศีกันย์เป็นคนที่ช่างสังเกต ทำอะไรก็แตะมีการวางแผนพินิจพิจารณาเป็นพิเศษ เป็นที่ที่ชอบความเป็นระเบียบเรียบร้อย ชอบให้เอาใจใส่ดูแลชอบคำชม มีความอ่อนไหวต่อความรู้สึก บางครั้งก็ระมัดระวังจนมากเกินไปจนทำให้เสียโอกาสดีๆก็เป็นไปได้ สดคนมีพรสวรรค์โอกาสด้านงานประดิษฐ์ ชอบช่วยเหลือเพื่อนพร้อมทั้งครอบครัวในยามลำบากบางครั้งก็ให้ความช่วยเหลือผู้อื่นจนตนเองจำเป็นจักต้องลำบากเสียเอง

 

ชาวราศีกุมภ์ (ระหว่างวันที่ 22 ม.ค. ถึง 21 ก.พ.)

ชาวราศีกุมภ์จะมีอยู่อุปนิสัยทำอะไรตรงเสด็จตรงมา ตัดสินใจเรื่องใดๆคว้าอย่างรวดเร็วประกอบด้วยความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ที่ไม่เหมือนใคร เป็นคนฉลาดพูดไม่อ้อมค้อม พูดตรงไปตรงมา มักจะติดเพื่อน ชอบเข้างานสังคม ด้วยลักษณะนิสัยของชาวราศีกุมภ์จะมีน้ำใจบัดกรีเพื่อนเสมอจึงมีเพื่อนรักใคร่เอ็นดูเสมอ และชอบศึกษาหาความรู้ใหม่เพื่อความก้าวหน้ามีความทะเยอทะยานในตนเองสูง มีความสามารถทางด้านศิลปะและจะเป็นคนที่มีจินตนาการที่ดีชอบวางแผนงานต่างๆบางครั้งก็ชอบเปลี่ยนจุดมุ่งหมายเนืองๆชอบพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ชอบพึงพาตนเองชอบของใหม่ทันสมัย

 

ความเข้ากันของทั้งสองราศี 75 % ทั้งนี้เป็นอิทธิพลที่ส่งผลถึงกันระหว่างราศีแบบ ภาพรวมกว้างๆ ยังคงขึ้นกับบุคคลทั้งสองคนด้วย

 

การผูกดวงสมพงศ์ระหว่างชาวราศีกันย์กับชาวราศีกุมภ์

คู่รักชาวราศีกุมภ์และชาวราศีกันย์หากมาหาพบเจอหรือมาเริ่มคบหากันจักสามารถสร้างความสัมพันธ์ด้วยความเข้าใจกันได้ด้วยดีลักษณะนิสัยชาวราศีกุมภ์เป็นสามัญชนมีน้ำใจและรักครอบครัวอยู่แล้วจึงสามารถดูแลคู่ครองที่เป็นชาวราศีกันย์ได้เป็นอย่างดี ชาวราศีกันย์ก็สามารถดูแลเอาใจใส่คู่รักชาวราศีกุมภ์ได้ดีด้วยเช่นกัน ข้อดีของชาวราศีกันย์จะเป็นคนที่สร้างสรรค์ ส่งผลต่อการกระทำในการตกแต่งเรือนหอหรือบ้านที่จะอาศัยอยู่กับคู่รักชาวราศีกุมภ์ เพราะชาวราศีกันย์จะมีสไตล์การแต่งบ้านแบบเรียบหรูแต่ดูดี มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยสะอาด ในเรื่องของการช่วยกันสร้างฐานะรวมหมดสองราศีต้องช่วยกันเก็บเงินโดยซื้อเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่จะใช้ชื่อรวมกันก็จะดีจะเป็นวิธีการที่จะช่วยประสานกันสร้างฐานะร่วมกันได้ดี สถานที่ท่องเที่ยวที่ควรชวนกันเคลื่อนท่องเที่ยวร่วมกันก็คือ เดินทางกราบไหว้พระธาตุพนม ทะเล ทะเลสาบ ไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้าน ดูหนัง สิ่งมงคลมีค่าที่ควรมอบให้กันคือแหวนทองคำที่ประดับด้วยหยกก็จักส่งผลให้มีความสุขและความผูกพันเข้าใจสกัดกั้นมากขึ้น บ้านหรือเรือนหอที่ควรเลือกซื้อไว้อยู่ร่วมกันควรเป็นแบบบ้านสไตล์โคโลเนียล 

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://horoscope.sanook.com/play/lovematching/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ดูดวงสมพงษ์

หวยปลิวเข้ามือ 2 ใบ แม่ค้าสับปะรดตัดสินใจซื้อ ถูกรางวัลที่ 1 รวย 12 ล้าน

หวยปลิวเข้ามือ 2 ใบ แม่ค้าสับปะรดตัดสินใจซื้อ ถูกรางวัลที่ 1 รวย 12 ล้าน

หวยปลิวเข้ามือ 2 ใบ แม่ค้าสับปะรดตัดสินใจซื้อ ถูกรางวัลที่ 1 รวย 12 ล้าน

Stringer

สนับสนุนเนื้อหา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (16 มี.ค.) เมื่อเวลา 19.00 น. นางสาวสมนึก อายุ 51 ปี มีอาชีพทำไร่สับปะรดและเป็นแม่ค้าสับปะรด พร้อมด้วยญาติพี่น้องได้นำลอตเตอรี่ หมายเลข 218559 ซึ่งเป็นหมายเลขรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 16 มีนาคม 2561 จำนวน 2 ใบ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.นิคมพัฒนา เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน

นางสาวสมนึก เล่าว่า ได้ซื้อลอตเตอรี่ทั้ง 2 ใบ มาจากตลาดนัดตะเคียนเตี้ย โรงโป๊ะ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากนำสับปะรดไปขายในตลาดดังกล่าว เมื่อขายสับปะรดหมดจึงได้เดินหาซื้อลอตเตอรี่ในตลาด

ซึ่งตนเองไม่ได้คิดตั้งใจจะว่าซื้อหมายเลขนี้ แต่ขณะที่ตนกำลังเขี่ยคลี่ดูเพื่อเลือกซื้อลอตเตอรี่บนแผงขายลอตเตอรี่ ปรากฏว่าลอตเตอรี่ 2 ใบ ได้ปลิวขึ้นมาติดมือ ตนเลยตัดสินใจซื้อมา

ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://news.sanook.com/5710606/

รู้หรือไม่? ดื่มนมวันละแก้ว ลดความเสี่ยงเป็นโรค “เกาต์”

รู้หรือไม่? ดื่มนมวันละแก้ว ลดความเสี่ยงเป็นโรค “เกาต์”

รู้หรือไม่? ดื่มนมวันละแก้ว ลดความเสี่ยงเป็นโรค “เกาต์” เกี่ยวกับ เกาต์

S! Health (Rewrite)

สนับสนุนเนื้อหา

หลายคนเข้าใจว่าโรคเกาต์มาจากการกินไก่มากๆ จนทำให้หลายคนมัวแต่ระวังเรื่องการทานไก่แต่เพียงอย่างเดียว จริงๆ แล้วสาเหตุของโรคเกาต์ ไม่ได้มาจากการทานไก่โดยตรง แต่อยู่ที่ระดับ “กรดยูริก”ในร่างกายที่มีปริมาณสูงมากเกินไป

อ่านต่อ >> จริงหรือไม่? กินไก่มาก เป็น “โรคเกาต์”

แต่หากอยากหลีกเลี่ยงโรคเกาต์ขึ้นมาจริงๆ เฟซบุ๊คเพจ Dr.Aki – หมออาคิ แนะนำให้ “ดื่มนม” ค่ะ นมช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคเกาต์ได้อย่างไร ไปอ่านคำแนะนำจากคุณหมอกันเลย!

 

____________________

<< แค่ดื่มนมวันละ1 แก้ว …ลดการเกิดโรคเกาต์ได้ >>

“โรคเกาต์” เป็นโรคข้ออักเสบที่ก่ออาการปวดอย่างรุนแรง เกิดจากระดับกรดยูริกในร่างกายสูงเป็นเวลานานก่อตัวเป็นผลึกยูริก ซึ่งผลึกยูริกเหล่านี้มักจะไปเกาะติดกับกระดูกส่วนข้อ ถ้าผลึกยูริกเกาะอยู่กับกระดูกอย่างนี้จะไม่แสดงอาการอะไรเลย จนกระทั่งเมื่อบางส่วนที่ยึดเกาะอยู่เกิดหลุดลงมาในข้อ เม็ดเลือดขาวจำนวนมากจะเข้ามาจัดการกับส่วนที่หลุดออกมาจนก่อให้เกิดการอักเสบของข้อ ดังนั้นการทำให้กรดยูริกในร่างกายเราอยู่ในช่วงปกติจึงเป็นเรื่องสำคัญมากในการป้องกันไม่ให้เป็นโรคเกาต์

ถ้าเช่นนั้นแล้วกรดยูริกในร่างกายเรามาจากไหน? แท้จริงแล้วกว่า 80%ของปริมาณกรดยูริกในร่างกายเกิดจากภายในร่างกายเราเอง ส่วนอีก 20%ที่เหลือมาจากอาหารที่ทาน โดยไตจะมีหน้าที่ในการขับกรดยูริกส่วนเกินทิ้งทางปัสสาวะ ซึ่งจากผลการศึกษาทางการแพทย์ต่างๆทำให้ทราบว่า สาเหตุหลักของการเกิด “ภาวะกรดยูริกสูง” เกิดจากไตขับทิ้งกรดยูริกได้ไม่ดี ส่วนการทานอาหารที่ทำให้กรดยูริกสูงมากเกินไปเป็นเพียงสาเหตุรอง

ส่วนต้นเหตุที่ทำให้ไตขับทิ้งกรดยูริกได้แย่เกิดจาก 2 ประเด็น ได้แก่

- อินซูลิน (ฮอร์โมนที่ช่วยคุมน้ำตาล) มีมากเกินไปส่งผลขัดขวางไตในการขับกรดยูริก ซึ่งจะพบได้ในคนที่ “อ้วน”

- ความผิดปกติทาง “พันธุกรรม” ซึ่งพบได้น้อย

ดังนั้นสรุปการป้องกันไม่ให้เป็นโรคเกาต์ที่เราทุกคนทำได้คือ การคุมน้ำหนักไม่ให้อ้วน ไม่ทานอาหารที่ทำให้กรดยูริกสูงมากเกินไป

ท้ายนี้สำหรับผู้ที่มีหรือเสี่ยงต่อภาวะกรดยูริกสูงนะครับ มีงานวิจัยเมื่อไม่นานมานี้พบว่า การทานนมไขมันต่ำแค่วันละ 1 แก้ว สามารถลดการเกิดโรคเกาต์ได้มากกว่า 40%” ทั้งนี้กลไกที่นมสามารถลดการเกิดโรคเกาต์ได้อย่างน่าทึ่งนั้น เนื่องมาจากในนมมีโปรตีนที่ชื่อ “เคซีน” เมื่อผ่านลงมาลำไส้จะถูกเปลี่ยนเป็นกรดอะมิโนที่ชื่อ “อลานีน” แล้วเข้าสู่ร่างกาย ซึ่ง “อลานีน” นี้เองจะไปช่วยให้ไตขับกรดยูริกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง

[ หมายเหตุ: สำหรับผู้ที่ไม่สามารถดื่มนมได้เนื่องจากมีปัญหาการย่อยแลคโตส สามารถดื่มนมชนิดแลคโตสฟรีแทนได้ครับ, ผลิตภัณฑ์จากนมเช่น โยเกิร์ตไขมันต่ำ ก็ได้ผลเช่นกันนะครับ ]

 

 

 

____________________

นอกจากนี้คุณหมออาคิยังอธิบายเพิ่มเติมอีกว่า จริงๆ แล้ว กรดยูริกไม่ได้มีแต่โทษเสมอไป เพราะกรดยูริคนั้นคือสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญของร่างกาย ทำหน้าที่ยับยั้งความเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย ช่วยให้เนื้อเยื่อต่างๆ ทำหน้าที่ได้อย่างปกติ และยังมีส่วนสำคัญในการต้านการเกิดมะเร็งอีกด้วย แต่ต้องระวังอย่าให้กรดยูริกในร่างกายสูงมากจนเกินไปนั่นเอง

ถึงแม้ว่าทางการแพทย์จะยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า การดื่มนมนั้นจะช่วยให้โรคเกาต์ที่มีอยู่หายไปได้ แต่อย่างน้อยก็ยังช่วยบรรเทาและช่วยเสริมให้ร่างกายมีกระบวนการกำจัดกรดยูริคที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจากงานวิจัยที่ใช้เวลาในการเก็บสถิตินานกว่า 12 ปีพบว่า ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเกาต์เมื่อดื่มนมทุกวันจะทำให้กรดยูนิคที่อยู่ในเลือดสามารถลดลงมาจนอยู่ในระดับปกติได้ เนื่องจากในนมมีสารที่ช่วยขับกรดยูริคออกทางไต เป็นเหตุให้ระดับกรดยูริคในเลือดลดลงอย่างได้ผล อีกทั้งในนมก็ยังมีสารอาหารอื่นๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย

ไม่จำเป็นว่าเราต้องดื่มแค่ ‘นม’ เพื่อบรรเทาโรคเกาต์เท่านั้น แต่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ทำมาจากนมก็สามารถหามาบริโภคได้เช่นกัน อาทิ โยเกิร์ท , นมเปรี้ยว ก็ได้ผล เว้นแต่นมถั่วเหลืองและน้ำเต้าหู้ที่ไม่นับว่าเป็นนมที่มีส่วนในการบรรเทาโรคเกาต์ ส่วนการดื่มนมเพียงวันละ 1 แก้วก็ถือว่าเพียงพอแล้ว สำหรับผู้ที่แพ้นมวันก็สามารถหาดื่มนมที่ผลิตขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่แพ้นมวัวได้

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sanook.com/health/5973/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : โรคซึมเศร้า

ดวงสมพงษ์ ของชาว ราศีธนู กับ ราศีธนู โดยอาจารย์ลี่

<img src="http://p1.s1sf.com/ho/0/ud/25/127629/tt.jpg"><br>

คู่รักชาวธนูเป็นคู่ที่เกือบจะสมบูรณ์แบบ คุณทั้งคู่มองโลกแบบคนมีการศึกษา อีกทั้งยังกระหายข้อเท็จจริงและความรู้ คุณสนุกสนานกับการสนทนาและหยอกล้อกัน ความไม่ลงรอยเรื่องเดียวที่อาจกำเนิดขึ้นได้ครอบครองบางครั้งก็คือ ครั้นชาวธนูผู้หมกมุ่นกับการหาข้อเท็จจริงคนใดคนหนึ่งเกิดเอาเป็นเอาตายกับเรื่องบางเรื่องมากเกินไป

ระดับความเป็นคู่แท้

 

คู่รักชาวธนูต่างมีเหตุเป็นตัวของตัวเองพร้อมกับชอบความเรียบง่าย คุณทั้งคู่เข้ากันได้ดี ไม่หึงหวงกัน และต่างก็เอาใจใส่การงานของตัวเองเมื่อไม่ได้อยู่กับคนรัก เมื่ออยู่ด้วยกันก็จะมอบความพึงพอใจพร้อมกับอิ่มอกอิ่มใจให้แก่กัน แม้จะเป็นคนทันสมัยและปรับตัวเก่ง แต่ก็มีหลุดได้เป็นบางครั้ง แต่ทั้งนี้ก็ไม่ใช่วิสัยของชาวธนูที่จะเก็บความหงุดหงิดไว้นาน หรือปล่อยให้ความขัดแย้งยืดเยื้อ

ราศีธนูได้รับอิทธิพลจากดาวพฤหัส คุณทั้งคู่ชื่นชอบการค้นคว้าหาความรู้และการนำความตื่นเต้นมาสู่ความสัมพันธ์ แม้บางครั้งอาจตามใจตัวเองเกินไปบ้าง แต่เสน่ห์และความโดดเด่นของคุณทั้งคู่ก็จะทำให้คุณเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วไป

ราศีธนูเป็นธาตุไฟ เมื่อไฟกับไฟมาบรรจบกันก็ยิ่งโหมกระพือและร้อนแรง คุณทั้งคู่ชอบออกไปท่องโลกและหาประสบการณ์ร่วมกันมากกว่าแค่หาข้อมูลจากหนังสือ ในบางครั้งความเป็นมิตรและเปิดเผยของชาวธนูก็กลายเป็นจุดอ่อน เพราะการพูดจาโดยไม่ยั้งคิดอาจนำพาชาวธนูไปสู่สถานการณ์ที่ทำให้กระอักกระอ่วน คุณทั้งคู่ชอบเริ่มต้นโครงการใหม่ๆ แต่ไม่ค่อยสนใจจะสานต่อไม่ใช่หรือติดตามผล เพราะความกระตือรือร้นที่มีเหลือเฟือจะทำให้คุณเบนความสนใจไปยังสิ่งใหม่ต่อๆไปอีก

คู่รักชาวธนูผู้แสนจะกระตือรือร้นและเสน่ห์แรงนั้นต่างเข้ากันได้ดี คุณคบหายับยั้งแบบสบายๆ ไม่ค่อยมีความขัดแย้ง แม้บางครั้งอาจจะดื้อรั้นหรือตั้งแง่ใส่กันบ้าง แต่ก็ไม่มีใครเก็บความหงุดหงิดไว้นาน ทุกเรื่องจึงคลี่คลายได้โดยง่าย สิ่งที่ดีที่สุดในความสัมพันธ์ของคู่ชาวธนูคือ ความสนใจในการใฝ่หาความรู้ที่ทั้งคู่มีเหมือนกันและการผูกมัดกันในระดับที่พอเหมาะพอดี ทั้งสองฝ่ายต่างยังมีพื้นที่ส่วนตัว คุณทั้งคู่จะร่วมกันท่องโลกกว้างและเพิ่มพูนความเฉลียวฉลาดให้ตัวเองไปพร้อมๆ กัน

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://horoscope.sanook.com/play/lovematching/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : sanookhoro ดูดวงสมพงษ์

วันเสาร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2561

รีวิวกากกาแฟขัดผิว ตัวช่วยให้ผิวเนียน นุ่ม ได้ผลจริง

รีวิวกากกาแฟขัดผิว ตัวช่วยให้ผิวเนียน นุ่ม ได้ผลจริง

รีวิวกากกาแฟขัดผิว ตัวช่วยให้ผิวเนียน นุ่ม ได้ผลจริง

ฮัลโหลสาวๆ วันนี้เกรดดี้จะมา รีวิวกากกาแฟขัดผิว ที่หลายคนอาจจะมองว่า กากกาแฟเนี่ยนะ จะมาขัดตัวได้หรอ! ที่ผ่านมาเราจะได้ยินบ่อยๆ ว่ากากกาแฟ ช่วยเหลือปลูกต้นไม้ ผสมดิน ผสมปุ๋ยเพื่อให้ต้นไม้งอกงาม แต่ถ้าใครได้ลองใช้สูตรนี้แล้วล่ะก็ จะต้องร้องว้าว กับผิวที่เนียน นุ่ม ขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ มากถ้าเป็นปุถุชนชอบกลิ่นกาแฟอยู่แล้วจะยิ่งฟินเลยค่ะ

แต่ก่อนที่เราจะมาดูสูตรเนรมิตผิวสวยกันนั้น เรามารู้กันก่อนดีกว่าว่า งานขัดผิวให้ประโยชน์อย่างไร

การขัดผิว จักช่วยให้ผิวของคุณดูชุ่มชื้น กระจ่างใสหมวดเป็นธรรมชาติ แต่! งานขัดผิวไม่ได้ช่วยให้ผิวขาวขึ้นได้ในพริบตา การออกแรงมากจะยิ่งทำให้ผิวอ่อนแอ เกิดคดีแห้งกร้าน เป็นรอยแดง กับเป็นสาเหตุให้สิ่งแปลกปลอมเข้าอยู่ในผิวของเราได้ง่ายขึ้น เพราะฉะนั้นแล้วควรขัดอย่างเบามือและไม่ควรขัดบ่อยจนเกินไป ควรขัดสัปดาห์ละไม่กิน 2 ครั้ง และไม่ควรทำติดกันเป็นได้จะเว้น 3-4 วัน หรือทำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง จะเหมาะสมที่สุด

ส่วนการเลือกใช้คืน กากกาแฟ ควรจะต้องทั้งเป็นกากกาแฟอย่างเดียว บางร้านเค้าจะใช้เครื่องบดเครื่องเดียวกัน ทำให้กากกาแฟกับกากชารวมกัน ควรหาร้านที่มีเครื่องแยกทั้งสองอย่าง แต่ถ้าเป็นร้านกาแฟชั้นนำไม่สัมผัสห่วงเค้าแยกอยู่แล้วจ้า

สิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือ การเก็บรักษากากกาแฟ เนื่องดำเนินความชื้นที่อยู่ในกากกาแฟนั้นมีมาก ควรตากให้แห้งจนมั่นใจว่าแห้งสนิทแล้วใส่กระปุกไว้ค่ะ

เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ถึงเวลาที่ Sanook! Women จะพาคุณสาวๆ ไปดูขั้นตอนการ ขัดผิวด้วยกากกาแฟ กันหาได้เลย

 

สิ่งที่ต้องมี

1. กากกาแฟบด

2. นมสด 

3. น้ำผึ้ง

 

ขั้นตอนแรก นำกากกาแฟบดมาใส่ในปริมาณที่พอเหมาะ ใครที่ชอบทาพอกตัวหนา อาจจะต้องใส่เยอะสักนิดนะคะ

 

ขั้นตอนที่สอง นำนมสดมาผสมลงไป กากกาแฟที่แข็งจะนิ่มลง แต่อย่าใส่เยอะจนเกินไปนะคะ ไม่อย่างนั้นเนื้อจะดูเหลวไม่ติดผิว

 

 

ใส่น้ำผึ้งลงไปอีกนิด 

 

เมื่อคนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากันแล้วมาถึงขั้นตอนการขัดตัวกันเลยค่ะ

 

นำกากกาแฟที่ผสมไว้มาขัดวนรื่นๆ ให้ทั่วตัว ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที ล้างออกตามปกติ วิธีนี้เกรดดี้ยังเปล่าเคยลองกับผิวหน้า แต่ทว่าถ้าคุณเป็นสาวหน้าแห้งที่จำเป็นต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นจัดได้เลย แต่อย่าลืมทดสอบที่ใต้ท้องแขนไม่ก็ผิวข้างแก้มก่อนกำหนดว่าคุณแพ้กากกาแฟหรือไม่เปล่า

แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วไปนะคะ สำหรับการทำสวยให้ผิวเนียนนุ่มอย่างปลอดภัย เปล่าต้องเสี่ยงอันตรายไปฉีดผิวหรือกินกลูต้าอุดหนุนขาวเวอร์ ก็ดูดีได้แล้วไปค่ะ

ดูเพิ่มเติมได้ที่ http://women.sanook.com/39259/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : แต่งตัว

ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล

ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล

ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล

ปัญหาผิวหน้าของสาวๆ ส่วนใหญ่ก็คือ การมีสิวขึ้นหน้า และเมื่อสิวหายไปแล้ว หลังจากมันตกสะเก็ดมันก็มักทิ้งรอยสิวดำๆ เอาไว้ให้สาวๆ เรากลุ้มใจตามเสมอ ด้วยเหตุนี้ เราจึงไม่ควรละเลยการรักษารอยสิวให้จางลงโดยเร็ว ว่าแต่จะมีวิธีไหนกันบ้างหรือไม่นะที่จะสามารถรักษารอยสิวให้จางลงได้อย่างเป็นธรรมชาติ

หากคุณมีชีวิตอีกคนหนึ่งที่กำลังประสบกับข้าวปัญหารอยสิว และหากกำลังมองหา วิธีลดเลือนรอยสิวในแบบธรรมชาติ ตามมาดูกับวัตถุดิบเหล่านี้ที่มีสรรพคุณเป็นดั่งยารักษารอยสิวกันสิคะ รับรองค่ะว่ารอยสิวจะต้องจางลงแบบเปล่าต้องควักตังค์ซื้อยารักษารอยสิวกันล่วงเลย แถมยังทำอุปถัมภ์ผิวหน้าแลดูกระจ่างใสตามได้อีกด้วย มาดูกันเลยค่ะว่ามีเช่นไรบ้าง

ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล
ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล

1.น้ำมะนาว

การลดเลือนรอยสิวให้จางลง เราสามารถใช้น้ำมะนาวได้ เป็นวิธีรักษาสิวสูตรธรรมชาติ เพราะน้ำมะนาวมีค่าเป็นกรดโดยจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียบนผิวได้มีชีวิตอย่างดี ด้วยกันยังทำหน้าที่แห่งการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว ทำให้รอยสิวดำๆ จางลง เสียแต่ว่าก่อนใช้อย่าลืมผสมน้ำมะนาวกับน้ำเปล่าให้กรดของมันเจือจางลงสักเล็กน้อยนะคะ เปล่างั้นอาจจะทำให้ผิวหน้าแสบระคายเคืองเกินเคลื่อนที่ได้ สำหรับในส่วนของงานรักษารอยสิวด้วยน้ำมะนาว เอื้ออำนวยแต้มน้ำมะนาวลงเที่ยวไปบนรอยสิวปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมงจึงล้างออก

2.เจลว่านหางจระเข้

หน้าร้อนโครงสร้างนี้ ผิวสาวมักเผชิญเข้ากับปัญหาผิวคล้ำเสียจากแดดหรือผิวไหม้แดดอาศัยเป็นประจำ และเจลว่านหางจระเข้ก็มีคุณสมบัติช่วยปลอบประโลมปัญหาผิวกายดังกล่าวได้ แต่ไม่เพียงเท่านั้นนะคะ มันยังสามารถช่วยรักษารอยสิวให้จางลงได้ด้วย เพียงนำเนื้อเจลว่านหางจระเข้มาทาลงบนรอยสิวปล่อยไว้ประมาณ 30 นาทีจากนั้นล้างออกสละให้สะอาด ประพฤติเป็นประจำ รอยสิวจางลงแน่นอน

เจลว่านหางจรเข้ ราคา 290 บาท

รหัสสินค้า : 001147
ราคา 290.00
Availability : In Stock
ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล
ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล
 

 

3.มันฝรั่ง

นำมันฝรั่งมาฝานให้เป็นแผ่น พลัดนั้นนำมาทาลงบนรอยสิว ปล่อยไว้ 30 นาทีแล้วล้างออก กระทำเป็นประจำมันฝรั่งจะช่วยรักษารอยสิวให้จางลงได้เช่นกันค่ะ

4.น้ำมันมะกอก

ก่อนใช้น้ำมันมะกอก ควรล้างหน้าแบ่งออกสะอาดก่อนด้วยน้ำอุ่น พลัดพรากนั้นจึงนำน้ำมันมะกอกมาทาบนใบหน้าเรียบร้อยกับค่อยๆ นวดผิวหน้าจนทั่ว ปล่อยไว้ประมาณ 1 – 2 ชั่วโมงแล้วจึงล้างหน้าให้สะอาด งานใช้น้ำมันมะกอกรักษารอยสิว นอกจากจะช่วยให้รอยสิวจางลงแล้วไป ยังช่วยบำรุงผิวแจกชุ่มชื้นและเนียนนุ่มขึ้นอย่างยังไม่ตายธรรมชาติอีกด้วย

ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล
ยารักษาสิวจากธรรมชาติ ตัวช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ผล

5.แตงกวากับมะเขือเทศ

ให้นำแตงกวาและมะเขือเทศมาปั่นเจือปนกันจนคือเนื้อละเอียด จากนั้นนำมาพอกหน้าไว้ประมาณ 30 นาทีแล้วล้างออกจ่ายสะอาด มะเขือเทศมีวิตามินเอพร้อมทั้งซี ในขณะที่แตงกวาเป็นแหล่งของวิตามินบี 1 และบี 2 เมื่อนำสองคุณค่านี้มาผสานรวมกันก็จะยิ่งช่วยลดเลือนรอยสิวให้จางลง และทำส่งเสียผิวหน้ากระจ่างใสนวลเนียนอย่างเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้นไป

6.มะละกอ

ให้นำมะละกอสุก สามารถรักษาสิวได้ โดยการนำมาปั่นจนละเอียด จากนั้นกรองเอาแต่น้ำมาทาลงบนรอยสิว หรืออาจจะทาตราบเท่าทั่วใบหน้าก็ได้เช่นกัน ปล่อยไว้ประมาณ 30 นาทีแล้วล้างออกให้สะอาด ทำเป็นประจำ คุณสมบัติจากมะละกอสุกจะช่วยกระตุ้นการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออก ทำให้ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้น พร้อมด้วยยังช่วยลดเลือนรอยสิวไปพร้อมๆ ยับยั้งอีกเนื่องด้วย

ขายส่งสบู่มะละกอแครอท

รหัสสินค้า : 000468
ราคา 125.00
Availability : In Stock

ทราบกันไปแล้วนะคะถึงวิธีรักษารอยสิวในแบบธรรมชาติ อย่าลืมหยิบเอาวัตถุดิบใกล้ตัวที่คุณหาง่ายเหล่านี้มาแต้มรอยสิว ไม่นานหรอกค่ะ ผลลัพธ์ที่คุณจะได้ค้นพบจะต้องเกิดกับคุณภายในไม่ช้าแน่นอน

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : รวมเคล็ดลับเด็ดเรื่องสิว

มาอย่างไว โปรโมชั่นจอง Nokia 8 ในประเทศไทย เริ่มขึ้นแล้ว

มาอย่างไว โปรโมชั่นจอง Nokia 8 ในประเทศไทย เริ่มขึ้นแล้ว

มาอย่างไว โปรโมชั่นจอง Nokia 8 ในประเทศไทย เริ่มขึ้นแล้ว

S! Hitech (Rewrite)

สนับสนุนเนื้อหา

ถ้าจะเรียกว่าเสือปืนไวคงยกให้ Nokia เพราะล่าสุดหลังจากเปิดตัว  ไปเมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา ตอนนี้ก็มีข่าวดีว่า มือถือรุ่นดังกล่าวจะเข้ามาขายในประเทศไทย 29 สิงหาคมนี้ เรียกได้ว่าไวจริง ๆ

แต่ก่อนอื่นร้านขายมือถือชื่อดังอย่าง TG Fone, Jaymart ได้ Post รูปและโปรโมชั่นของ Nokia 8 ออกมา แล้ว ซึ่งของแถมนั้นยังคงแถมลำโพงและ Gift Set ให้เหมือนกันและมีการมัดจำด้วยเงิน 1,000 บาทเท่านั้น

ส่วนราคาของ Nokia 8 ในประเทศไทย ถึงแม้จะยังไม่ได้มีข้อมูลหลุดออกมานั้น เมื่อเทียบกับราคาที่เปิดตัวในต่างประเทศจะอยู่ระดับ 2 หมื่นบาท

1502941581165

 

รายละเอียดของ Nokia 8 นั้นเป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่บอดี้โลหะแบบ Unibody ขนาดจอของเครื่อง 5.3 นิ้วความละเอียดจอ 2560x1440 พร้อมทั้งกันน้ำได้ระดับ IP54 เบื้องต้นในประเทศไทยจะมีขาย 2 สีคือ น้ำเงิน และก็ เงิน

CPU Qualcomm Snapdragon 835, RAM 4 – 6GB ความจำในตัว 64 – 128GB รองรับ 4G, WiFi 802.11 AC, Bluetooth ให้แบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh พร้อมกับกล้องหลังคู่เลนส์ Zeiss ขนาด 13 ล้านพิกเซล ที่มีเทคโนโลยีทั้งยัง Nokia OZO Audio บันทึกเสียงรอบทิศ ถ่ายภาพพร้อมกันได้ทั้งกล้องถ่ายรูปหน้ารวมทั้งหลัง

แล้วก็จะได้ระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 พร้อมอัปเกรด Android Oreo ในไม่ช้านี้ รวมทั้งยังเป็น Pure Android 100% อีกด้วย

รวมเรื่องราว nokia 8 ที่นี่ คลิ๊ก!!!

สนับสนุนเนื้อหา http://hitech.sanook.com/1432561/

ดวงสมพงษ์ ของชาว ราศีเมษ กับ ราศีมิถุน โดยอาจารย์ธนกร

ชาวราศีเมษ (ระหว่างวันที่ 22 มี.ค. ถึง 21 เม.ย.)

เป็นคนที่มีลักษณะนิสัยเป็นคนพูดตรงมาตรงไป กระทำอะไรมักมีเป้าหมายเป็นคนที่พอใจเดินทางท่องเที่ยว เป็นคนขยันชอบการปฏิบัติ เป็นคนที่มีความสร้างสรรค์ขยันอดทน รักความอิสระมั่นใจตนเองชอบความเด่นดัง อาชีพที่เหมาะกับชาวราศีเมษเป็นอาชีพที่ต้องอาศัยการปฎิบัติเพราะเป็นคนขยันเหมาะในอาชีพที่จะต้องเดินทางบ่อยๆเช่นมัคคุเทศก์ อาชีพเซลล์ นักถ่ายทำสารคดี นักบิน ทางด้านความรักมีความโรแมนติกชอบความเป็นส่วนตัวอยู่บ้างแต่ถ้าหากพบคู่ของเจ้าชะตาแล้วไป ก็หวังให้เพื่อนญาติหรือสังคมได้รับรู้ว่าเจ้าชะตาจัดหามาพบคู่พบกับคนที่ถูกใจแล้ว

 

ชาวราศีมิถุน (ระหว่างวันที่ 22 พ.ค. ถึง 21 มิ.ย.)

ชาวราศีมิถุนเป็นคนที่กอบด้วยลักษณะนิสัยเรื่องรู้สิ่งต่างๆได้อย่างรวดเร็วแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์หรือกับผู้อื่นได้ดี ชอบวางแผนการใช้ชีพได้ดี ชอบสื่อสารสนทนากับเพื่อนหรือชอบเข้าสังคม แต่บางครั้งถูกเปลี่ยนเป้าหมายโต้คารมเก่งพอสมควรแต่บางครั้งการตัดสินใจไม่เด็ดขาดสองจิตสองใจ เรื่องของใช้การดูแลคนที่ครอบครัวก็ทำได้ดีพอพอประมาณอาชีพที่เหมาะสมพร้อมกับคนที่เกิดราศีนี้คืออาชีพนายหน้า นักค้นคว้า นักประดิษฐ์ ไม่ค่อยโปรดปรานทำงานซ้ำๆเพราะหมายถึงคนเบื่อง่าย

 

การผูกดวงสมพงศ์ระหว่างชาวราศีเมษกับชาวราศีมิถุน

การพิจารณาความสมพงศ์ของดวงชะตาระหว่างคู่รักชาวราศีเมษและชาวราศีเมถุนอยู่ในเกณฑ์ที่สวยในการคบหาและการใช้ชีวิตอยู่ร่วมเกียดกันเพราะทั้งสองราศีนี้มีความพิเศษในเรื่องความสามารถในและเรื่องการสร้างความสุขและความมั่นคงทางด้านครอบครัวได้ดี จึงเหมาะที่จะตกลงปลงใจที่จะมาทั้งเป็นคู่รักกัน สถานที่ท่องเที่ยวที่ควรพากันเดินทางไปท่องเที่ยวร่วมกันอย่างมีความสุข คือ พระธาตุดอยสุเทพเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ สวนสัตว์ สวนสนุก สวนน้ำ ชมภาพยนตร์ อัญมณีนำโชคที่จะช่วยให้ความรักและความสัมพันธ์ส่งผลให้มีความสุขที่ดีต่อกันคือ กำไลข้อมือทองคำที่ประดับมรกต บ้านหรือเรือนหอที่ควรเลือกซื้อไว้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันควรเป็นบ้านแบบสไตล์โมเดิร์นคลาสสิค

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://horoscope.sanook.com/play/lovematching/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : sanookhoro ดูดวงสมพงษ์